ราคาทองคำปิดยืนเหนือกว่า 2,035 ดอลลาร์ รอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในสหรัฐสัปดาห์นี้

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,029.06 +1.43 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น +0.1%

ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2023 ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,085.76 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ขณะที่ในช่วงระหว่างวันซื้อขาย ราคาทองคำส่งมอบทันทีขึ้นสูงสุดที่ 2,135.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลให้ราคาซื้อขายสูงสุดระหว่างวันทำสถิติราคาทองคำส่งมอบทันทีสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้ในตลาดเอเชีย เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2023 ราคาทองคำส่งมอบทันทีมีราคาพุ่งกระฉูดถึงระดับที่ 2,148.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,035.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +1.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.1% ขณะที่ในปี 2023 ราคาทองคำตลาดโลกปิดพุ่งขึ้น 2 หลัก ถึง +13.45% และเป็นราคาทองคำรายปีที่ปิดบวกเป็นปีแรกใน 3 ปีผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2023 ราคาทองคำส่งมอบล่วงหน้า หรือ Gold Future ปิดที่ 2,107.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ขณะที่ในช่วงระหว่างวันซื้อขาย ราคาทองคำล่วงหน้าขึ้นสูงสุดที่ 2,152.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลให้ราคาซื้อขายสูงสุดระหว่างวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

ก่อนหน้านึ้ ในเดือนตุลาคมปีผ่านไป พบว่าราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 8% โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มฮามาสติดอาวุธเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจนนำไปสู่สงครามรุนแรงในรอบ 75 ปีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 190.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 อยู่ที่ระดับ 1,809.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธันวาคมของสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ หลังจากตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนธันวาคมปี 2023 พบว่าสูงกว่าที่คาดไว้ โดยเพิ่มขึ้น 210,000 ราย มากกว่าเป้าหมายที่ 170,000 ราย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภาคบริการในสหรัฐกลับชะลอตัวลงมาก

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ยังอยู่เหนือระดับ 4% เป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากที่อยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน ทั้งหมดเป็นผลจากบันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่เปิดเผยในสัปดาห์ผ่านไป พบว่า เฟดยังต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นตึงตัวต่อเนื่อง ต้องระมัดระวังการตัดสินซึ่งขึ้นกับข้อมูลเงินเฟ้อต้องมีความชัดเจนว่ามีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่องและชัดเจน

ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมีนาคม ปี 2024 อยู่ที่ 67% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมองว่ามีโอกาสราว 65.7%