ราคาน้ำตาลโลกทะยานสูงจูงใจผู้ส่งออกแห่ส่งออกน้ำตาลโตพุ่ง 74.64% ขายในประเทศได้ถูกกว่า

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่าจากภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยว 9 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 20 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 254.98 ทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ น้ำตาล การแปรรูปและการถนอมผลไม้และผัก ผลิตภัณฑ์นม เบียร์ และเนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น

โดยเฉพาะน้ำตาล ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 74.64 จากน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และน้ำตาลทรายขาวเป็นหลัก ตามความต้องการของตลาดส่งออก และตลาดในประเทศ ซึ่งการงดส่งออกน้ำตาลของประเทศอินเดียจะส่งผลให้ไทยได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น สำหรับตลาดในประเทศขยายตัวตามกิจกรรมเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง และมีคำสั่งซื้อของผู้รับซื้อรายใหญ่

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลจากราคาตลาดโลกสูงระดับ 27-28 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศระดับ 24-25 บาทต่อกิโลกรัม จึงจูงใจให้โรงงานน้ำตาลส่งออกมากขึ้น เพราะราคาน้ำตาลในประเทศต่ำกว่า จนเกิดการลักลอบส่งออกนน้ำตาลในรูปแบบกองทัพมดไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปกติบริโภคน้ำตาลทรายแพงกว่าไทยอยู่ก่อนแล้ว เหล่านี้ทำให้น้ำตาลในประเทศเริ่มตึงตัว ทำให้ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ปรับราคาหน้าโรงงาน ทำให้น้ำตาลทรายขาวเดิมราคากิโลกรัมละ 19 บาท เป็นกิโลกรัมละ 23 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เดิมราคากิโลกรัมละ 20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 24 บาท มีผลตั้งแต่ที่ 28 ตุลาคม 2566 ก่อนจะถูกกระทรวงพาณิชย์เบรก จนคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม และให้ราคาหน้าโรงงานกลับไปที่ 19-20 บาทต่อกิโลกรัมเหมือนเดิม