ราคาอสังหาฯ ภาพรวมในไทยส่อหดตัวชัด ราคาบ้านภาคอีสาน-เหนือตกต่ำรับปัจจัยเปลี่ยนชัดเจน

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ KKP Research เปิดเผยว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะชะลอตัวลงจาก 4 ปัจจัยภายในประเทศที่เริ่มเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน ประกอบด้วย การขยายพื้นที่เขตเมืองในต่างจังหวัด หรือ Urbanization ชะลอตัวตามภาคอุตสาหกรรมและบริการที่อาจไม่สามารถเติบโตได้ดีเท่ากับในอดีตตามภาวะ Deglobalization

ปัจจัยต่อมา ได้แก่ กำลังซื้อคนไทยหดตัว จากรายได้ที่เติบโตช้าลงตามภาวะเศรษฐกิจ ในขณะที่ราคาบ้านยังคงเพิ่มขึ้นเร็ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่อาจค้างสูงนาน จะเป็นปัจจัยที่ลดกำลังซื้อและเพิ่มภาระหนี้ให้กลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัย

ส่วนปัจจัยสุดท้าย ได้แก่ ระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงมากแล้วในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่ไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลงของวัฏจักรสินเชื่อ (Deleveraging) ส่งผลให้การกู้ยืมอาจมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นและความสามารถในการก่อหนี้เพิ่มเติมของผู้กู้ทำได้น้อยลง

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ KKP Research เปิดเผยต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ยังคงประเมินว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ยังไปต่อได้ สาเหตุจากประชากรจากต่างจังหวัดย้ายเข้ามาทดแทนประชากรในพื้นที่ เนื่องจากเป็นแหล่งงาน การศึกษา และการแพทย์กระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ แต่สำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคมีอาการน่าเป็นห่วง

สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ในเมืองรองและเขตชนบทอาจเข้าสู่ภาวะซบเซา มีความเสี่ยงราคาบ้านปรับตัวลดลง ความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเล็กหดตัวลงตามจำนวนครัวเรือนที่ย้ายไปยังเมืองใหญ่มากขึ้น สะท้อนจากจำนวนครัวเรือนในภาคอีสานและภาคเหนือที่เริ่มหดตัวที่ 1.2% ต่อปี ในปัจจุบันเริ่มเห็นตัวเลขปริมาณอุปทานของบ้านมากกว่าจำนวนครัวเรือน ซึ่งสวนทางกับกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่จำนวนบ้านในตลาดยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ KKP Research ได้ประเมินว่า ปัญหาบ้านล้นตลาดในต่างจังหวัดจะยิ่งถูกกดดันมากขึ้นจากความต้องการที่หดตัวลงต่อเนื่องตามจำนวนครัวเรือนที่ลดลง ประกอบกับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มลดลงในภาพรวม ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ในอนาคตจะมีจำนวนบ้านเหลือมากขึ้นและเป็นแรงกดดันให้ราคาบ้านต้องปรับลดลงได้เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นและจีนที่ประสบปัญหาราคาบ้านแถบชนบทหดตัว