วิกฤตไมโครชิปขาดตลาดนานถึงปี 65 หนุนส่งออกชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ไทย

603
0
Share:

วิกฤตไมโครชิปขาดตลาดนานถึงปี 65 หนุนส่งออกชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ไทย แต่ฉุดยอดผลิตรถยนต์ในประเทศ
.
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจไทยพาณิชย์ หรือ EIC เปิดเผยว่า ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงทั่วโลกนั้นมีสาเหตุหลักมาจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ (1) Trade War และ Tech War ระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2018 (2) ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นมากจากวิกฤติ COVID-19 (3) การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกในช่วงปลายปี 2020 และ (4) ปัญหา Supply chain disruption ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติและการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในปี 2021 ที่ยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์รุนแรงขึ้น
.
วิกฤติดังกล่าว ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ ในวงกว้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งพบว่าได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงและชัดเจน สะท้อนได้จากการปรับลดกำลังการผลิตของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ อันเป็นผลมาจากการส่งมอบชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ที่ล่าช้า จนไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ โดย IHS Markit คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ในปี 2021 มากถึงราว 7.7 ล้านคัน หรือคิดเป็น 9% ของเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกในปีนี้
.
อนึ่ง EIC คาดการณ์ว่า ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จะยังคงลากยาวต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่า ระยะเวลาในการผลิตและส่งมอบชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ หรือ lead time ยังมีแนวโน้มนานขึ้น จากปัญหา supply chain disruption ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในอาเซียน ซึ่งกระทบต่อขั้นตอนการประกอบและทดสอบที่ต้องใช้แรงงานคนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์นี้จะค่อย ๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้นและคลี่คลายลงได้ในปี 2023 เป็นต้นไป
.
ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกต่างเร่งปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมการผลิตของตนไปสู่รูปแบบ regionalization หรือ localization มากขึ้น ด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนและให้สิทธิประโยชน์กับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศตนเอง รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการวิจัยพัฒนา ออกแบบและผลิตเซมิคอนดักเตอร์เองภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์จากผู้ผลิตในฝั่งเอเชีย และป้องกันปัญหา supply chain disruption ที่อาจเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต
.
สำหรับนัยต่อไทยนั้น เราพบว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลดีต่อการส่งออกของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย สะท้อนได้จากมูลค่าการส่งออกที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความต้องการใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทั่วโลก แต่ในทางกลับกัน ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็ส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่เกี่ยวเนื่องด้วย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างชัดเจน
.
ขณะที่ในระยะยาว EIC มองว่าไทยควรเร่งให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงการนำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการพึ่งพาแรงงานคน พร้อม ๆ ไปกับการออกนโยบายด้านการลงทุนที่จูงใจเพื่อดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งจะเอื้อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology transfer) มายังผู้ประกอบการในประเทศ เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีศักยภาพการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว