ศุลกากรรับยอดภาษีม.ค.ร่วงจากไวรัสโควิด-19

868
0
Share:

นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ยอดจัดเก็บภาษีของกรมศุลกากร เดือนม.ค. ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้จีนลดกำลังการผลิต หยุดกิจการนำเข้า-ส่งออกบางส่วน และกระทบมาถึงการนำเข้าสินค้าของไทยด้วย แต่เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระทบในระยะสั้นเท่านั้น ดังนั้นจึงยังไม่จำเป็นต้องปรับเป้าการจัดเก็บภาษีศุลกากรปีงบประมาณ 2563 ที่ตั้งไว้ที่ 1.11 แสนล้านบาท
.
ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาด้านศุลกากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้ดำเนิน 5 มาตรการทางศุลกากร เพื่อยกอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจในไทยด้านการค้าระหว่างประเทศ หรือ Doing Business ได้แก่ กระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึงสำหรับของนำเข้า เพื่อความรวดเร็วสามารถตรวจสอบได้ทันทีเมื่อสินค้ามาถึง, การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
.
เพื่อช่วยลดการขนส่งเงินและเช็ค ทำให้ลดเวลา 3 ชั่วโมงต่อครั้ง หรือ 3.5 ล้านชั่วโมงต่อปี และลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อกับกรมศุลกากร 433.74 บาทต่อครั้ง หรือ 513 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งผู้ประกอบการสามารถสั่งพิมพ์ใบเสร็จรับเงินได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเสียเวลามารับใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากร
.
รวมถึงการไม่เรียก-ไม่รับสำเนาใบขนสินค้าที่มีในระบบ e-Customs เนื่องจากใบขนอยู่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลอยู่แล้ว, มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพแฟ้มบริหารความเสี่ยงเพื่อลดอัตราการเปิดตรวจ เป็นการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และลดอัตราการเปิดตรวจ ส่งผลให้อัตราการเปิดตรวจโดยเฉพาะสินค้าประเภทชิ้นส่วนรถยนต์ ลดลงจาก 37% เหลือ 26% ,
.
นอกจากนี้ระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอ็กเรย์แบบขับผ่าน สามารถ X-Ray ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าได้ 150 ตู้ต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่า X-Ray แบบ Fixed ที่ X-Ray ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าได้ 30 ตู้ต่อชั่วโมง คิดเป็น 5 เท่า