ส.อ.ท.เผยอุตฯเหล็กไทยปีนี้ติดลบ 10%

863
0
Share:

นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กทั่วโลกปรับตัวลดลง โดยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,725 ล้านตันลดลงจากปีก่อน 2.4%
.
หากจำแนกผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้เหล็กปี 2563 กับปี 2562 เป็นรายประเทศ พบว่าเกือบทุกประเทศมีปริมาณความต้องการใช้เหล็กลดลง ได้แก่ อิตาลี -22% อินเดีย -20% ญี่ปุ่น -19% สหรัฐอเมริกา -16% เกาหลีใต้ -8% ยกเว้นประเทศจีน ความต้องการใช้เหล็กยังมากกว่าปีก่อนขยายตัว 8%
.
สำหรับประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 มีปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็ก 11 ล้านตัน ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
โดยสถานการณ์ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยในช่วงท้ายปี 2563 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้เหล็กทั้งปี 16.7 ล้านตัน ลดลง 10% จากปี 2562 โดยผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบน ลดลง 11% และผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว ลดลง 9%
.
สำหรับวิกฤตโควิดปีนี้ ปริมาณความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยปี 2563 ถดถอยลง 10% แต่การฟื้นตัวจะช้าและต้องใช้เวลาหลายปี โดยคาดว่าปี 2564 ปริมาณความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก อยู่ที่ระดับ 4-5% หรือ 17.3- 17.5 ล้านตันเท่านั้น
.
ดังนั้นการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กภายใน และการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผลิตในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศให้เร็วขึ้นได้
.
นอกจากนี้ ต้องการให้ภาครัฐพิจารณาให้โครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership : PPP) ต่างๆ ส่งเสริมการใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพื่อก่อให้เกิดการจ้างงานและการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ