หมดสภาพ! วงการธุรกิจโฆษณาในไทยปี 64 จะติดลบหนักถึง 4% แย่สุดในรอบ 20 ปี

นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือเอ็มไอ มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาในไทยปี 2564 ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 รอบ 3 อย่างรุนแรง ส่งผลต้องปรับการประเมินใหม่ ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าเม็ดเงินอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาในปี 64 จะลดลงอย่างมากเหลือเพียง 72,138 ล้านบาท หรือติดลบ 3-5% โดยเฉลี่ยแล้วจะติดลบราว 4% เมื่อเปรียบเทียบจากปี 63 ที่มีเงินสะพัดที่ 75,168 ล้านบาท นั่นหมายถึงปี 2564 จะกลายเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 20 ปีของอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณา

การปรับลดมูลค่าดังกล่าวลดลงในครั้งนี้ เป็นการปรับลดลงจากการประเมินในช่วงต้นปี 64 ว่า เมื่อถึงสิ้นปีนี้ อุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาจะฟื้นตัวราว 8% หรือมีมูลค่าราว 81,024 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อประเทศไทยต้องพบกับการระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ก็ได้ปรับลดการเติบโตลงเหลือ 1% หรือราว 75,956 ล้านบาท บนสมมุติฐานว่ารัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือเอ็มไอ กล่าวว่าอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาได้รับผลกระทบหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่การมาถึงของดิจิทัล และโรคระบาดโควิด-19 ในไทย ที่ระบาดยืดเยื้อมาเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี โดยเฉพาะวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 1 ในช่วงต้นปี 63 เปรียบเหมือนมรสุมที่ซัดอุตสาหกรรมติดลบหนักสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งตลาดหดตัวอย่างรุนแรงถึง -16.7% มีมูลค่าเม็ดเงินตกต่ำอย่างรุนแรงเหลือ 75,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบจากปี 62 ที่เคยมีมูลค่าสูงถึง 90,212 ล้านบาท

ความน่ากังวลมีมากขึ้น ถ้าหากประเทศไทยต้องพบการระบาดรอบที่ 4 ซึ่งไม่แตกต่างจากปัจจัยลบซ้ำซ้อนที่กระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อและโฆษณา หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ คาดว่าการระบาดจะกินเวลายาวนานมากกว่า 4 เดือน และมีแนวโน้มจะระบาดยืดเยื้อต่อไปอีก

อย่างไรก็ดี บริษัทเอ็มไอคาดการณ์ว่า ปัจจัยบวกอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวฟื้นตัวได้ คือวัคซีน โดยมองว่าน่าจะมีสัญญาณบวกในช่วงปลายไตรมาส 4 ปีนี้ ที่มีการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรมากขึ้น ประกอบกับการเข้ามาของวัคซีนชนิด mRNA

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การสื่อสารที่ต้องมีประสิทธิภาพของรัฐบาลเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะตั้งแต่ต่นปีนี้ ซึ่งเป็นความสำคัญให้กับภาคธุรกิจ และประชาชนได้รู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร และจะรับมือกับสถานการณ์อย่างไร

ทั้งนี้ นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมานั้น การสื่อสารจากภาครัฐบาลสร้างความสับสน ไม่ชัดเจน ขาดการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกได้ว่าเป็นการสื่อสารที่ขาดประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อข้อมูลที่ภาครัฐพยายามสื่อสาร และเกิดความสูญเสียในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ