หมอยงเผย ‘โรคฝีดาษลิง’ พบเฉพาะในลิงแอฟริกา ยังไม่พบในลิงไทย วอนอย่ากังวล

560
0
Share:
โรคฝีดาษลิง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่าโรคฝีดาษลิงไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ มีมานานกว่า 10 ปี โดยพบผู้ป่วยรายแรกที่แอฟริกา มีความแตกต่างจากเชื้อผีดาษในคน โดยจะติดต่อจากการสัมผัสบาดแผล ฝีหนอง และเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

มีพาหะคือหนู สัตว์ฟันแทะตระกูลหนู กระรอก ซึ่งการพบผู้ป่วยในต่างประเทศมาจากการเลี้ยงสัตว์แปลก หรือมีการเดินทางไปที่แอฟริกา การติดต่อของฝีดาษลิงถือว่าติดต่อได้ยาก เนื่องจากต้องสัมผัสกับบาดแผล ฝีหนอง ของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และมีตุ่มแดงขึ้น จากนั้นพัฒนากลายเป็นตุ่มน้ำใสและแตกออก

“ส่วนใหญ่มีอาการประมาณ 2-4 วันก็สามารถหายได้ ระยะเวลาการฟักเชื้อประมาณ 5-14 วัน แต่บางคนอาจมีอาการรุนแรงเสียชีวิตได้ เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำ พบประมาณ 10% ดังนั้น โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัย หมั่นล้างมือ และหากมีอาการไอ จาม ควรสวมหน้ากากอนามัย โรคฝีดาษลิงสามารถใช้วัคซีนฝีดาษในคนป้องกันได้ แม้จะให้ผล 85% แต่ที่คนส่วนใหญ่ต้องเร่งขจัดโรคฝีดาษลิงไม่ให้แพร่ เนื่องจากการพบฝีดาษลิงในคน เท่ากับทำให้ไวรัสมีการพัฒนาข้ามสายพันธุ์ หากมากขึ้นก็อาจกลายพันธุ์ได้ ทำให้นานาประเทศต้องเร่งขจัด”

ทั้งนี้ยังไม่ต้องตื่นกังวลเนื่องจากยังไม่ได้เกิดในไทย และเชื้อนี้ไม่มีในลิงของไทย มีเชื้อเฉพาะในลิงแอฟริกา ซึ่งการป้องกันตัวสำหรับโรคนี้ไม่ได้แตกต่างกันจากโควิด สำหรับฝีดาษในคน ประเทศไทยได้ขจัดโรคนี้จากการปลูกฝีและหมดไปในปี พ.ศ. 2517 ฉะนั้นเด็กที่เกิดหลังปี 2517 จะไม่พบโรคนี้อีก