อินเดียเที่ยวในประเทศเป็นหลัก 1% เที่ยวต่างประเทศ อีก 7 ปีใช้จ่ายท่องเที่ยวที่ 4 โลก

210
0
Share:
อินเดีย ท่องเที่ยว ในประเทศเป็นหลัก 1% เที่ยวต่างประเทศ อีก 7 ปีใช้จ่ายท่องเที่ยวที่ 4 โลก

บุ๊คกิ้งดอทคอม และแมคคินซี่ ร่วมเปิดเผยผลสำรวจการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนชาวอินเดีย ในปี 2022 ชาวอินเดียเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากถึง 1,700 ล้านทริป แต่เกือบทั้งหมด หรือ 99% ล้วนเป็นการเดินทางภายในประเทศอินเดีย โดยมีเพียง 1% เท่านั้นที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวชาวอินเดียจะเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากเป็น 5,000 ล้านทริปภายในปี 2030 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า ที่สำคัญ 99% ของจำนวนคาดการณ์ 5,000 ล้านทริป จะอยู่ภายในประเทศเท่านั้น สำหรับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศอินเดียของชาวอินเดีย มี 4 เมืองหลักตามลำดับ ได้แก่ นิวเดลี เบ็งกาลารู มุมไบ และเชนไน ซึ่งครองใจชาวอินเดียมาตั้งแต่ปี 2015

อินเดียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลก และมีประชากรมากที่สุดในโลกกว่า 1,420 ล้านคน ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นประเทศที่ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในอีก 7 ปีข้างหน้าจากนี้ไป สาเหตุจากจำนวนประชากรชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะครัวเรือนชนชั้นกลางอินเดียจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงปีละ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าปีละ 1.26 ล้านบาท

นอกจากนี้ ประชากรชาวอินเดียอยู่ในวัยหนุ่มสาวมาก โดยมีอายุเฉลี่ยที่ 27.6 ปีเท่านั้น ซึ่งอยู่ในวัยหนุ่มสาวมีจำนวนมากกว่าประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ในอันดับต้นๆ ของโลก ที่สำคัญ กำลังการบริโภคทั้งสินค้าและบริการรวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ได้รับการประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นถึงกว่า 2 เท่าภายในปี 2030 การใช้จ่ายในการเดินทาง และการท่องเที่ยว ถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มแตะ 410,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14.8 ล้านล้านบาท หรือพุ่งทะยานกว่า 170% จากในปี 2019 ที่มีการใช้จ่ายด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวรวมกันที่ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.4 ล้านล้านบาท

สำหรับการเดินทางและการท่องเที่ยวของลาวอินเดียในต่างประเทศนั้น พบว่า 10 เมืองท่องเที่ยวของชาวอินเดียตามลำดับ ได้แก่ ดูไบ(ยูเออี) กรุงเทพ(ไทย) สิงค์โปร์ กรุงลอนดอน(อังกฤษ) กรุงปารีส(ฝรั่งเศส) โฮจิมินห์ซิตี้ (เวียดนาม) อูบุด(อินโดนีเซีย) ฮานอย(เวียดนาม) ภูเก็ต(ไทย) และกาฐมาณฑุ(เนปาล)

ด้านรัฐบาลไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรีประกาศมาตรการให้สาธารณรัฐอินเดียและไต้หวันเป็นรายชื่อประเทศ/ดินแดนในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 (ระยะเวลา 6 เดือน) ซึ่งเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวของชาวอินเดียและไต้หวัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศในภาพรวม

อย่างไรก็ตาม ตลาดท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวอินเดียยังคงต้องใช้เวลาในการสร้างแรงจูงใจอีกยาวนาน เนื่องจากสัดส่วนการเดินทางและการท่องเที่ยวออกนอกประเทศมีเพียง 1% เท่านั้น