อ่านแล้วจุก! สื่อนิวยอร์ค ไทม์ส ตีแผ่ไทย เส้นสายบนความเหลื่อมล้ำกับโควิดรอบ 3 ในไทย

687
0
Share:
สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา นิวยอร์ค ไทม์ส ตีพิมพ์คำพูดว่า “The rich people party and the poor people suffer the consequences” แปลว่า “คนรวยปาร์ตี้ และคนจนรับผลกระทบที่ตามมา” หรือจะแปลว่า “คนรวยจัดงานสังสรรค์ และคนจนทุกข์ทรมานกับผลที่ได้รับ” ซึ่งเป็นคำให้สัมภาษณ์จากใจของนายสิทธิชาติ อังคะสิทธิศิริ ประธานชุมชนคลองเตย ในรายงานพิเศษที่มีชื่อว่า “After Lavish Nights of Clubbing in Bangkok, a Covid Outbreak” แปลว่า “หลังจากคืนที่สุดหรูหราฟุ่มเฟือยในกรุงเทพ โรคระบาดโควิด-19 อุบัติขึ้น”
.
รายงานพิเศษดังกล่าวมีประเด็นสำคัญ 1-2 เรื่องด้วยการอธิบายทุกแง่มุมของการระบาดรอบที่ 3 ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยประเด็นแรกชี้ให้เห็นถึงแหล่งแพร่ระบาดจุดแรก และเป็นจุดศูนย์กลางที่พบในย่านสถานบันเทิงทองหล่อ กรุงเทพมหานคร ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และประเด็นต่อมาอธิบายให้เห็นถึงสังคมแห่งสิทธิพิเศษที่คนไทยบางกลุ่มมีและใช้ให้เป็นประโยชน์กับกลุ่มคนที่มีสิทธิพิเศษเหล่านี้ในสถานการณ์การระบาดรอบที่ 3 รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่คนไทยบางกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาเพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ได้รวดเร็วกว่าคนยากจน แม้จะอาศัยอยู่ในใจกลางเมืองหลวงนางฟ้าอย่างกรุงเทพมหานคร
.
2 นักข่าวของนิวยอร์ค ไทม์ส มีชื่อว่า ฮันนาห์ บีช และ มัคติตา ซูฮาร์โตโน บรรยายว่า จากบรรยากาศที่แขกระดับสุดพิเศษ หรือ VVIP เข้าไปเที่ยวในเลานจ์แห่งนี้ในย่านทองหล่อ พร้อมกับการดูแลจากเหล่าสาวสายเอนที่แต่งตัวด้วยอุปกรณ์หลากหลาย เช่น ใส่มงกุฏ ใส่ปีกนางฟ้าต้อนรับเหล่าบรรดาแขก VVIP
บทความรายงานพิเศษนี้ อ้างว่าภายในห้องรับรองเฉพาะ VVIP จะมีโซฟาหนานุ่มดูหรูหรา จัดไว้ให้บริการทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไทย นักการทูต นายทหาร และนักธุรกิจ ซึ่งปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่รณรงค์อยู่นอกเลาจน์แห่งนี้ไม่สามารถหยุดความสนุกสนานที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้น
.
คริสตัลคลับ และเลานจ์ใกล้เคียง ได้แก่ เอมเมอรัลด์ กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 3 ของทั้งกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางคนไทยจำนวนมากมายที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร และตามต่างจังหวัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วไม่เพียงสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่ยังปฏิบัติตามมาตรการควบคุม และป้องกันต่างๆ ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดโควิด-19 แจ้งมาตลอดเวลา
รายงานพิเศษชิ้นนี้ กล่าวถึง การติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ หรือคลัสเตอร์ทองหล่อ สะท้อนให้เห็นถึงการที่คนร่ำรวย หรือเศรษฐีไม่ต้องรับบทลงโทษทางกฎหมายทั้งที่มีการบังคับใช้ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งนิวยอร์ค ไทม์ส ระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนยากจนมากที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก
.
ชุมชนแออัดย่านคลองเตย และอีกหลายๆแห่ง เรือนจำ แคมป์คนงานก่อสร้าง และโรงงานอีกหลายแห่งในประเทศไทย คือผลพวงจากแหล่งบันเทิงเริงรมย์ย่านทองหล่อ คนรวย คนระดับสุดพิเศษ VVIP ในค่ำคืนวันนั้น
รายงานพิเศษนี้พูดถึงวัฒนธรรมเส้นสายในเมืองไทย ที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าการตรวจสอบความจริงกับบุคคลที่มีประวัติหรือมีชื่อเสียงใหญ่โต นักการเมืองในไทย โดยส่วนใหญ่แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคนกลุ่มเหล่านี้ ขณะที่คนยากจนซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆกระจายในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานครต้องได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดนั้น กลับกลายต้องเดือดร้อนอย่างมาก นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับชีวิตที่ลำบากที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต ด้วยสาเหตุจากสิ่งแวดล้อม และที่อยู่อาศัยของคนยากจนในชุมชนเหล่านี้ไม่สามารถรักษาระยะห่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นิวยอร์ค ไทม์ส ยังได้นำสถิติการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในรอบที่ 3 ของไทย มาชี้ให้เห็นว่า ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในไทยจากที่มีจำนวนไม่ถึง 5,000 รายในเดือนพฤศจิกายนในปี 2563 พุ่งทะยานเป็นมากกว่า 5,800 รายภายในวันเดียว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปีนี้ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในไทยพุ่งขึ้นสูงกว่า 175,000 รายเข้าไปแล้ว
.
ด้านวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย สื่อยักษ์ใหญ่นิวยอร์ค ไทม์ส พูดถึงว่า การระบาดระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น หลายประเทศกำลังเผชิญอย่างเดียวดัน คือการมีวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ไม่เพียงพอ รายงานพิเศษนี้ ระบุว่า ประเทศไทยพึ่งการผลิตวัคซีนยี่ห้อแอสตราเซเนกาจากบริษัท สยามไบโอ ไซเอนซ์ ที่ไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน
.
ความไม่เสมอภาคในประเทศไทยซึ่งอยู่บนสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นั้น ในมุมมองของนิวยอร์ค ไทม์ส พูดถึงว่าชนชั้น Elite หรือกลุ่มคนระดับสูงและร่ำรวยสามารถจองโปรแกรมทัวร์เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกส เป็นต้น เพื่อไปรับการฉีดวัคซีนยี่ห้อดัง เช่น ไฟเซอร์-ไลออนเทค โมเดอร์นา หรือแม้แต่จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งวัคซีนยี่ห้อเหล่านี้ยังไม่มีในประเทศไทย แม้แต่ทัวร์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศรัสเซีย ซึ่งมีราคาทัวร์ราว 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 210,000 บาท ก็ถูกจองเต็มจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้ ในขณะที่กลุ่มคนยากจนจำนวนมากต้องรอเตียงว่างในโรงพยาบาลสนามที่รัฐบาลไทยจัดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ