เงินรูเบิลแข็งค่าสูงสุดรอบ 7 ปี ผลตอบแทนดีที่สุดอันดับ 1 ของโลก
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศในยุโรป รายงานว่า เมื่อคืนผ่านมา 23 มิถุนายน 2565 ค่าเงินรูเบิลเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 52.30 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 เป็นต้นมา ก่อนหน้านี้ ค่าเงินรูเบิลเทียบดอลลาร์สหรัฐดำดิ่งลงอย่างรุนแรงมาแตะที่ระดับ 139 ต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
ธนาคารกลางรัสเซีย เปิดเผยว่า ค่าเงินรูเบิลที่แข็งค่าสูงขึ้นมาก ทำให้ต้องใช้มาตรการเข้าแทรกแซงค่าเงิน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของรัสเซีย
สาเหตุหลักๆ และสำคัญที่ทำให้ค่าเงินรูเบิลแข็งค่าสูงมากขึ้นมาจากหลายปัจจัยได้แก่ ธนาคารกลางรัสเซียประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุนทันทีเพื่อแก้ปัญหาความปั่นป่วนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติออกจากรัสเซียหลังเกิดสงครามเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ต่อจากนั้น ธนาคารกลางรัสเซียกระชากดอกเบี้ยระยะสั้นจากเดิม 9.5% ขึ้นไป 20% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมออกกฎหมายให้ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆในรัสเซียจำกัดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศชั่วคราว
ปัจจัยต่อมา ศูนย์วิจัยพลังงานสะอาด หรือ CRECA ในประเทศฟินแลนด์ พบว่าท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของกลุ่มสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียในช่วง 100 วันแรกของสงครามนั้น รัสเซียยังคงมีรายได้ 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.53 ล้านล้านบาท จากการส่งออกฟอสซิลที่นำไปใช้ในการผลิตพลังงาน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวราว 50% หรือกว่า 1.5 ล้านล้านบาทเป็นรายได้จากการส่งออกไปกลุ่มสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ การยกเลิกพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างสมบูรณ์แบบต้องใช้เวลาเป็นปี ทำให้ยังคงมีปริมาณการส่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในจำนวนหนึ่งจากรัสเซียไปยังกลุ่มสหภาพยุโรป รวมถึงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มอียูประกาศมาตรการคว่ำบาตรนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียของกลุ่มอียูเป็นเพียงบางส่วน ซึ่งยังคงยกเว้นการส่งน้ำมันดิบผ่านท่อส่งน้ำมันไปยังประเทศฮังการีที่มีเป็นประเทศไม่ทีทางออกติดกับทะเล
ปัจจัยต่อมา รัสเซียเกิดภาวะการเกินดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกิดขึ้นในลักษณะการนำเข้าลดลงอย่างมากจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก ในขณะที่รัสเซียส่งออกสินค้า และพลังงานไปขายให้ประเทศในแถบเอเชียทดแทน ในราคาที่ถูกต่อรองลงอย่างมาก แต่ยังคงมีรายได้จากการส่งออกจุดนี้
