เดนทิสเต้ ตกลงต่อสัญญา ”ลิซ่า BLACKPINK” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้ง

502
0
Share:
เดนทิสเต้ ตกลงต่อสัญญา”ลิซ่า BLACKPINK”เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้ง

หากพูดถึงแบรนด์เดนทิสเต้ (DENTISTE’) นับว่าเป็นที่รู้จักกันดีในตลาดคอนซูเมอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในปีที่ผ่านมาได้ ลิซ่า BLACKPINK มาเป็น Brand Ambassador ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก ทำให้ยอดขายเติบโตราว 15% แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมี่ยมเดนทิสเต้ (DENTISTE’) พร้อมด้วย ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และ ศิวกร พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ เปิดเผยว่าเดนทิสเต้ตกลงต่อสัญญากับศิลปินตัวท็อประดับโลกอย่าง ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ในการเป็น Brand Ambassador ให้กับเดนทิสเต้อีกครั้ง พร้อมกับโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย

โดยจะได้พบกับลิซ่า ในฐานะ Brand Ambassador ยาสีฟันสูตรใหม่ที่ Hi-end และจะเปิดตัวในปีหน้า พร้อมกับกิจกรรม Meet & Greet Lisa x DENTISTE’ แฟน ๆ ที่ตั้งตารอเจอลิซ่ารับรองว่างานนี้ได้ใกล้ชิดแบบไม่มีที่ไหนมาก่อน เพราะจัดเป็น Exclusive Private Fan meet โดยงานนี้จะจัดขึ้นเพื่อแฟน ๆ ของ DENTISTE’ โดยเฉพาะ

เดนทิสเต้ เปิดเผยว่าการต่อสัญญาในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีหลายแบรนด์ที่ติดต่อลิซ่าให้เป็น Brand Ambassador แต่มีไม่ถึง 10 แบรนด์ ที่ลิซ่าเลือก ซึ่งการได้ลิซ่ามาร่วมงานอีกครั้ง เดนทิสเต้ตั้งเป้ายอดขายที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพร้อมขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์ Amazon ของอเมริกา ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ “No.1 Premium Niche in America” รวมถึงมีแผนที่จะตั้งสำนักงานที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วย

ในปีที่ผ่านมาเดนทิสเต้เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของเดนทิสเต้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีไม่เฉพาะในประเทศไทยแต่อีกหลายหลายประเทศทั่วโลก ยอดขายเติบโตราว 15% แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

“การได้ ลิซ่า มาเป็นผู้ส่งต่อ Message สำคัญ ๆ ช่วยสร้างความน่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น”

ปัจจุบันเดนทิสเต้มีส่วนแบ่งการตลาด 7% เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ Hi-end ในขณะที่ส่วนแบ่งในตลาด Hi-end อยู่ที่ 85%