เอกชนจี้รัฐเร่งลงทุน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการลงทุน

665
0
Share:

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ที่ปรึกษาหอการค้าไทยและอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2564-2565 ที่ระดับ 5 % เท่ากับช่วงที่ก่อนการเกิดโควิด-19 บนสมมติฐานที่จะไม่เกิดการระบาดรอบที่ 2 โดยเทรนด์ในการขับเคลื่อนธุรกิจภายหลังโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นสตาร์ทอัพ ซึ่งเกิดจากการเติบโตของกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย ที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการสร้างโมเดลธุรกิจในแพลตฟอร์มต่างๆ เพราะคนรุ่นใหม่ต้องการสร้างธุรกิจของตัวเอง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังยกระดับไปสู่เทคโนโลยีชั้นสูง
.
อย่างไรก็ดีภาครัฐต้องเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ใช้จุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางอาเซียน พัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ เพื่อหาเอสเคิร์ฟตัวใหม่สร้างการเติบโตจาก BCG ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการสร้างความชัดเจนให้กับนักลงทุนกับทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต แก้ไขปัญหาโครงสร้างการผลิตที่ขาดแคลนแรงงาน และเป้าหมายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
.
ด้านดร.ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ภาครัฐต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมถึงการบริหารจัดการงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ที่จะต้องเร่งการเบิกจ่ายเยียวยาและฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะงบประมาณที่เสนอมาจากชุมชน ยังมีการอนุมัติน้อยมาก รวมไปถึงการอนุมัติสินเชื่อ (Soft loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับโดยเฉพาะการมุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) แทนการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดใหญ่
.
ขณะที่นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาการชะลอตัวเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลทำให้ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลง ทำให้อัตราการลงทุนในไตรมาส 1 ของปี 2563 ติดลบ มีเพียงเงินลงทุนจากภาครัฐที่ยังขยายตัวเป็นบวก 10% ในไตรมาสแรก และต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ ส่วนภาคเอกชนก็ยังลดลงเช่นเดิม รัฐจึงต้องสร้างความมั่นใจโดยการนำร่องลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว หลังจากจัดการกับโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีแต่เศรษฐกิจยังชะลอตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้ประกอบการก่อสร้างรายเล็ก และรายกลางที่ต้องวิ่งเข้าหางาน เพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอดได้ ทุกฝ่ายจึงภาครัฐลงทุนฟื้นความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ