โชว์พราวด์! ‘บิ๊กตู่’ โชว์ผลงาน ลั่นไทยฟื้นตัวจากมหาวิกฤตซ้อนวิกฤตแล้ว

204
0
Share:
โชว์พราวด์! ‘บิ๊กตู่’ ประยุทธ์ โชว์ ผลงาน ลั่น ไทย ฟื้นตัวจากมหา วิกฤตซ้อนวิกฤต แล้ว

วันนี้ 27 มิถุนายน 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับผลงานของรัฐบาลภายในใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีดังนี้

ผลจากการทำงานอย่างหนักของทุกภาคส่วนของประเทศ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติ ทำให้ในวันนี้มีผลการดำเนินการในทุกมิติ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าการเดินทางของประเทศไทย ในวันนี้เราได้ฟื้นตัวจากมหาวิกฤตซ้อนวิกฤตได้อย่างยั่งยืนแล้ว ในอนาคตอันใกล้เราจะสามารถพลิกโฉมประเทศไทยไปสู่ประเทศแนวหน้าของโลก สำหรับในยุคลูกหลานของเรา ก็จะก้าวไปสู่ประเทศผู้ส่งออกนวัตกรรม เป็นประเทศผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ สู่สายตาชาวโลก ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากการปูพื้นฐานและความพยายามของคนรุ่นเราในทุกวันนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอหยิบยกรายงาน สถิติ และผลการประเมินต่างๆ มานำเสนอ ดังนี้

1. รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปี 2566 ของสหประชาชาติ (UN) ที่ประเมินผลการพัฒนาของไทยดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 43 จากการประเมินทั้งหมด 166 ประเทศ ถือเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เป็นผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาประเทศทุกระดับ

2. สถิติการลงทุนประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติในประเทศไทย ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีเอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุน รวม 274 ราย สร้างมูลค่า 45,392 ล้านบาท สร้างการจ้างงาน 2,999 คน โดยเป็นการลงทุนใน EEC ที่เป็นแหล่งบ่มเพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศ จำนวน 48 ราย มีมูลค่า 9,442 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของเงินลงทุนทั้งหมด สะท้อนความเชื่อมั่น และศักยภาพความพร้อมของไทยรองรับการลงทุนระยะยาวจากทั่วโลก

3. การจัดอันดับดัชนีระบบนิเวศทางสตาร์ตอัพโลกประจำปี 2566 โดยเว็บไซต์ StartupBlink ที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านระบบนิเวศสตาร์ตอัพทั่วโลก ได้จัดอันดับ 100 ประเทศ และ 1,000 เมือง โดยให้ไทยอยู่ในอันดับ 52 ของโลก “ดีขึ้น” 1 อันดับ จากปีที่แล้ว และถือเป็นอันดับที่ 4 ของอาเซียน

4. การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ประจำปี 2566 อยู่อันดับที่ 30 ซึ่งดีขึ้น 3 อันดับจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะทางเศรษฐกิจดีขึ้น 18 อันดับ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้ติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานสำคัญๆ อีกหลายเรื่อง ให้เป็นไปตามแผนงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก้ประชาชนคนไทยในเร็ววัน ได้แก่
1.การขยายผลจากความสำเร็จหลังฟื้นสัมพันธ์ “ไทย-ซาอุฯ” ภาพรวมมูลค่าด้านการลงทุนระหว่างกัน อยู่ที่ 3.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.64% ด้านการท่องเที่ยว ในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวซาอุฯ เดินทางเข้าไทย 96,389 คน สร้างรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท และคาดว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 150,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 12,000 ล้านบาท โดยมีการเพิ่มเที่ยวบินจาก 9 เที่ยว/สัปดาห์ เป็น 42 เที่ยว/สัปดาห์

2.ผลจากมาตรการส่งเสริม 5F Soft Power ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทย ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ไทยได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ บนหลายแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวทั้ง Agoda และ Klook มียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติจองกิจกรรมในไทย “เพิ่มขึ้น” กว่า 1,200% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 5 เดือน กว่า 10.6 ล้านคน สะท้อนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวไทย และการดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล

3. ความคืบหน้าในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร มีความคืบหน้าตามแผน ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จในปี 2569 และจะเปิดให้บริการในปี 2570 ช่วยให้การเดินทางได้รวดเร็วขึ้น เหลือเพียง 90 นาที โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนานไปกับทางเดิม “สายใต้ : ช่วงนครปฐม-ชุมพร” ภาพรวมคืบหน้ามากกว่า 90% เมื่อเสร็จแล้ว จะช่วยประหยัดเวลาเดินทางได้ 25-30 %

“สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นมากกว่าความภาคภูมิใจของคนไทย แต่เป็นทั้งโอกาสและอนาคตที่สดใส คุณภาพที่ดีขึ้นของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าด้วยศักยภาพของคนไทย ภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบของไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสงบของบ้านเมือง ความสามัคคีของคนในชาติ มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่าในอดีต และมีความต่อเนื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว