SET Index ปิดดิ่งกว่า 18.41 จุด ที่ 1,490.46 จุด แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นเฟด

ดัชนี SET Index ปิดตลาดร่วง -18.41 หรือ -1.22% ที่ 1,490.46 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 45,718 ล้านบาท

โดยดัชนีหุ้นไทยหลุด 1,500 จุดอีกครั้ง ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,486.49 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,505.88 จุด

3 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. BBL มูลค่า 2,142.48 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 156.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.89%
2. PTT มูลค่า 1,940.26 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 33.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.74%
3. BDMS มูลค่า 1,659.79 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 27.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.80%

ขณะที่ตลาด SET50 ปิดที่ 914.49 จุด ปรับ -11.78 จุด หรือ -1.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,146.84 ล้านบาท

ด้านตลาด mai ปิดที่ 456.53 จุด ปรับ -4.24 จุด หรือ -0.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,277.69 ล้านบาท

นายนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงอย่างร้อนแรงจากทั้งหมด 3 ปัจจัยคือกรรมการเฟดคงมุมมองดอกเบี้ยขาขึ้นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยเมื่อคืนนี้ โดยกรรมการส่วนใหญ่ ยังคงให้มุมมองว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในครึ่งปีหลัง ซึ่งส่งผลให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.941% และอายุ 2 ปี อยู่ในระดับ 4.945% จนกดดันต่อตลาดหุ้นในต่างประเทศให้ปรับตัวลง เพราะนักลงทุนทยอยถือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น

รวมทั้งงบฯ AEONTS ต่ำคาดหนัก ซึ่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. 2566 โดยมีกำไรลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จึงทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มไฟแนนซ์อื่น ตลอดจนปัจจัยการเมืองไม่นิ่ง

สำหรับวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) ดัชนีฯ อาจแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,475-1,460 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 1,500 จุด เพราะปัจจัยทั้ง 3 ยังคงกดดันดัชนีฯ ต่อเนื่อง

หมายเหตุ – ข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน