WHO แนะประชาชนเลี่ยงใช้ธนบัตรในการทำธุรกรรม

1249
0
Share:

องค์การอนามัยโลก WHO แถลงแนะนำให้ประชาชนใช้เทคโนโลยีด้านการเงินในการทำธุรกรรมแทนการใช้ธนบัตรเป็นเงินสดในการจับจ่ายชำระซื้อหาสินค้าและบริการ เหตุจากมีหลักฐานที่ประเมินได้ว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่บนผิวธนบัตรได้เป็นเวลาหลายวัน ดังนั้น เพื่อเป็นการหยุดยั้งการระบาดของไวรัสดังกล่าว ขอให้ประชาชนไปใช้เทคโนโลยีการเงินอื่นๆ ในการทำธุรกรรมที่ตัดวงจรการจับต้องธนบัตรระหว่างกัน ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านไป ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่และเกาหลีใต้ ประกาศเก็บธนบัตรเก่าออกจากตลาด เพื่อทำความสะอาดและเก็บกักเป็นเวลานาน 14 วัน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคไวรัสบนธนบัตร
.
องค์การอนามัยโลก WHO เปิดเผยต่อไปว่า ขณะนี้จำนวนอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดส่วนบุคคล หรือ PPE เกิดภาวะขาดแคลน ซึ่งเป็นผลพวงการจากความต้องการเพิ่มสูงมากขึ้น การตื่นตระหนกหาซื้อ การกักตุน และการใช้อุปกรณ์เหล่านี้โดยขาดความเข้าใจในการใช้งานที่ถูกต้อง องค์การฯ จึงเรียกร้องให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดส่วนบุคคล หรือ PPE เช่น หน้ากากอนามัย เร่งผลิตเพิ่มขึ้นอีก 40% รองรับความต้องการใช้กับสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 จากการเก็บข้อมูลของ
.
WHO พบว่า ตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมเป็นต้นมา ราคาหน้ากากอนามัยเฉลี่ยพุ่งขึ้น 6 เท่า หน้ากากอนามัย N95 เฉลี่ยพุ่งขึ้น 3 เท่า และเสื้อกาวน์สำหรับบุคลากรแพทย์เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2 เท่า จนถึงทุกวันนี้ WHO จัดส่งอุปกรณ์ PPE ไปกว่า 47 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับการระบาดรวมแล้วกว่า 500,000 ชุด แต่จำนวนสต๊อคกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ WHO ประเมินว่า จำนวนหน้ากากอนามัยจะต้องผลิตได้ถึงเดือนละ 89 ล้านชิ้น จึงจะเพียงพอกับการใช้ท่ามกลางภาวะโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก