YOUNG@HEART SHOW : มาทำความสะอาดตู้เย็น ป้องกันเชื้อแบคทีเรียกัน

Share:

          หลายๆ บ้านไม่ค่อยได้ทำความสะอาดตู้เย็น ต้องรอให้ทำอะไรหกในตู้เย็นก่อน ถึงจะทำสักทีหนึ่ง จริงๆ แล้วตู้เย็นควรทำความสะอาดบ่อยๆ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน เพื่อความสะอาดปลอดภัย อย่าลืมว่าตู้เย็นเป็นที่ใส่อาหารของทุกคนในบ้าน ถ้าไม่ทำความสะอาดอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียได้นะคะ พอนำอาหารมาทานก็อาจจะปวดท้อง ท้องเสีย อาหารเป็นพิษได้ วันนี้มาดูวิธีทำความสะอาดตู้เย็นกัน

 

1. คัดแยกอาหารหมดอายุ

          อาหารกลุ่มเสี่ยงที่จะหมดอายุก็พวกซอส น้ำจิ้มในขวดที่เปิดแล้ว อาหารที่ปรุงแล้วทานเหลือ ผักสดเก่าเก็บเกินกว่า 5 วัน นม โยเกิร์ต และเนื้อสัตว์ที่มีอายุนานกว่า 1 เดือน ยกเว้นเนื้อสัตว์แช่แข็งที่อยู่ในถุงสูญญากาศ อันไหนหมดอายุแล้วก็ทิ้งไปซะ ถ้าเก็บไว้นานอาจเน่าเสีย และมีเชื้อแบคทีเรียได้นะคะ

 

 

2. ล้างชั้นตู้เย็น

          หลังจากเอาของออกมาวางพักข้างนอกแล้ว ชั้นวางของที่ถอดได้ก็ควรถอดออกมาล้าง ใช้น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำที่อ่อนนุ่มในการล้าง ไม่ควรใช้สก๊อตไบร์ทหรือฝอยขัด ถ้าชั้นวางเป็นรอยขีดข่วนก็จะเพิ่มโอกาสที่แบคทีเรียจะมาเกาะตามร่องรอยขีดข่วนได้ค่ะ ล้างแล้วก็ผึ่งให้แห้งก่อนนำมาใส่คืนนะคะ

 

3. เช็ดภายในตู้เย็น

          การเช็ดในตู้เย็นจะใช้น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วทั้งตู้เย็น แล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดออกสัก 2 รอบก็ได้ หรือใช้น้ำผสมเบกกิ้งโซดา หรือน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับตู้เย็นทำความสะอาดก็ได้ค่ะ แล้วแต่สะดวก อย่าลืมทำความสะอาดขอบยางของตู้เย็นด้วยนะคะ ตู้เย็นเก่าๆ มักจะมีเชื้อราซ่อนอยู่ในขอบยางค่ะ

 

 

4. จัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบ

          ผักก็ควรอยู่ในช่องผัก เนื้อสัตว์ก็ควรอยู่ในช่องแช่เนื้อ หรือช่องแช่แข็ง การแยกให้เป็นสัดส่วนจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการท้องเสียได้ เช่น น้ำแข็งเก็บกับเนื้อหมู น้ำแข็งก็จะนำมาทานไม่ได้ใช้มั้ยคะ ดังนั้นควรแยกให้เป็นระเบียบ เนื้อสัตว์และอาหารที่มีกลิ่นแรงก็ควรใส่กล่องปิดฝาให้แน่นหนา ป้องกันกลิ่นแพร่กระจายในตู้เย็น อาหารพร้อมรับประทานก็ควรใส่กล่องปิดให้มิดชิดเช่นเดียวกัน ป้องกันกลิ่นออกและป้องกันเชื้อโรคเข้าด้วยค่ะ

 

5. ใช้ถ่านดูดกลิ่นตู้เย็น

          ตู้เย็นที่มีกลิ่นเหม็นสามารถใช้ถ่านมาดูดกลิ่นได้ นำถ่านที่ใช้จุดเตาปรุงอาหารมาใส่ชามเล็กๆ แล้วเอาไปตั้งไว้ในตู้เย็น เท่านี้กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะหายไปในพริบตา ถ่านเป็นอะไรที่ดูดกลิ่นได้ดีที่สุดแล้วค่ะ

 

 

          เท่านี้ก็จะได้ตู้เย็นสะอาด กลิ่นไม่เหม็น ไร้เชื้อแบคทีเรียแล้วนะคะ ถึงแม้จะแช่น้ำดื่มอย่างเดียวก็ควรเช็ดบ้าง เพราะในตู้เย็นก็มีฝุ่นได้ ตรงไหนมีอากาศก็มีฝุ่นได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าตู้เย็นสะอาด อาหารของเราก็จะปลอดภัย ยิ่งเป็นผักผลไม้ที่ทานสดๆ ก่อนทานก็ควรล้างให้สะอาดด้วยนะคะ

Young@Heart Show