YOUNG@HEART SHOW : ไปทำงานให้ปลอดภัยไร้โควิด
ตอนนี้หลายๆ ออฟฟิศก็ได้ทยอยเปิดให้พนักงานกลับมาทำงานอีกครั้ง การออกไปนอกบ้านแน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ แต่ก็สามารถป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสได้ ถ้าระวังตัวดีความเสี่ยงก็จะลดลง มาดูกันเลยว่าต้องระวังตัวอย่างไรบ้างค่ะ
1. เลี่ยงเวลาเดินทางที่มีคนเยอะ
สำหรับคนที่ต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะ ควรออกจากบ้านเช้าหน่อยเพื่อเลี่ยงเวลาคนแออัดในรถโดยสาร และรักษาระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1.5 เมตรถ้ารถเต็มก็ควรรอก่อน ไม่ควรขึ้นรถที่แออัดนะคะ
2. สวมหน้ากากอนามัย–พกเจลล้างมือ
ออกจากบ้านก็อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และควรใช้เจลล้างมือหลังจากจับสิ่งของสาธารณะต่างๆ ไม่จับหน้า จับผม ขยี้ตา ไม่ควรล้วง แคะ แกะ เกาในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
3. ล้างมือบ่อยๆ
เมื่อเข้าตึกแล้วก็ควรล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง กลับถึงบ้านก็เช่นเดียวกัน ควรล้างมือให้สะอาดทันที เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคค่ะ
4. ไม่ทานอาหารเป็นหมู่คณะ
ร้านอาหารต่างๆ ก็จะมีมาตรการให้นั่งโต๊ะละ 1 คน หรือมีฉากกั้นระหว่างที่นั่ง แต่หลายคนก็ชอบสั่งข้าวมาทานในออฟฟิศ ถึงจะสั่งมาทานก็ควรจะแยกกันทาน โต๊ะใครโต๊ะมัน ไม่ควรนั่งทานรวมกันหลายๆ คน เพราะการทานข้าวก็ถือว่าเสี่ยงค่ะ อย่าลืมว่าเราต้องถอดหน้ากากอนามัยเวลาทานข้าวนะคะ
5. ไม่จับของใช้ส่วนตัวของคนอื่น
ไม่ควรหยิบจับของใช้ส่วนตัวของคนอื่น พวกปากกา ไม้บรรทัด ยางลบ หวี กระจก กิ๊ฟติดผม เครื่องสำอางต่างๆ ควรงดการยืมกันอย่างถาวร ของใช้ส่วนตัวต้องเตรียมมาเองนะคะ การยืมของกันถือว่าเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก
6. ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์
ของใส่ส่วนรวมในออฟฟิศควรมีการเช็ดทำความสะอาดอยู่ตลอด อาจจะสเปรย์แอลกอฮอล์ก่อนหยิบจับเพื่อความสบายใจ เช่น ที่เย็บกระดาษ กรรไกร เครื่องปริ้นท์ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น
7. พกแก้วน้ำ–จานชาม–ช้อนส้อม
การดื่มน้ำจากแก้วส่วนร่วม หรือใช้ช้อนส้อมส่วนรวมอาจทำให้ไม่สบายใจได้ ก็ต้องพกของส่วนตัวค่ะ และไม่ควรให้คนอื่นยืมด้วยนะคะ
8. งดการกอด–จับมือ
ออฟฟิศที่มีชาวต่างชาติส่วนใหญ่ก็จะจับมือกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ช่วงนี้ขอให้งดการสัมผัสร่างกายกับเพื่อนร่วมงานก่อน งดการกอด จับมือ โอบไหล่ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยค่ะ
9. รีบกลับบ้าน
ควรงดสังสรรค์หลังเลิกงาน เลิกงานแล้วก็กลับบ้านทันที ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้
ทีนี้ก็กลับไปทำงานที่ออฟฟิศได้อย่างสบายใจแล้วนะคะ ถ้าระวังตัวเองก็ไม่ต้องกลัวป่วยหรือติดเชื้อใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ควรระแวงจนจิตตก สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ สุขภาพจิตก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ต้องดูแลให้เท่าๆ กันนะคะ