YOUNG@HEART SHOW : ปอดแข็งแรง สู้ PM2.5 และ โควิด-19

Share:

             นอกจากหัวใจที่ทำให้คนเรามีชีวิตอยู่ได้อีกอวัยวะหนึ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเราไว้ก็คือปอด ซึ่งทำหน้าที่นำออกซิเจนเข้าร่างกายเพื่อให้เกิดกระบวนการหมุนเวียนที่ดีของร่างกายและน้ำอากาศเสียอย่างคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย เราจะทำอย่างไรให้ปอดแข็งแรงอยู่เสมอ ในขณะที่ PM2.5 และโควิด-19 ยังอยู่รอบตัวเรามาดูกันค่ะ

Problem air pollution at hazardous levels with pm 2.5 dust, smog or haze, low visibility in bangkok city ,thailand Premium Photoที่มารูปภาพ : freepik.com

             สิ่งที่เราควรดูแลตัวเองที่สำคัญในเบื้องต้นคือ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน  ยิ่งช่วงไหนที่ค่า PM 2.5 อยู่ในระดับที่อันตรายเราควรเลือกหน้ากาก N95 , หน้ากาก FFP1-FFP2 ที่จะสามารถป้องกัน PM2.5 และโควิด-19 ได้  นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกสถานที่  งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่มีค่าฝุ่นละอองสูง และพื้นที่เสี่ยงต่อเชื้อโควิด-19สูง  หมั่นดื่มน้ำสะอาดเพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกาย  และงดการสัมผัสกับสถานที่ที่มีฝุ่นควันจากการเผาขยะ ,กลิ่นจากสีทาวัสดุ,ฝุ่นควันจากการเดินทางและโรงงานอุตสาหกรรม เพราะสิ่งเหล่านี้จะเข้าไปสะสมอยู่ในปอดและทำให้ประสิทธิภาพและคุณภาพของปอดลดลง

Businessman wearing protective face mask and cough, coronavirus and pm 2.5 fighting Premium Photo

ที่มารูปภาพ : freepik.com

             นอกจากนี้อาหารก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะดูแลปอดให้แข็งแรงจากภายในโดย ควรเลือกทานอาหารที่ช่วยในการบำรุงปอดเช่น ผักผลไม้ที่มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน จะช่วยเสริมในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินหายใจ เช่น แคร์รอต ผักบุ้ง ฟักทอง มะเขือเทศ น้ำมันตับปลา รวมถึงผักที่มีสีเขียวเข้ม สีส้มและสีเหลือง ตามมาด้วยอาหารที่มีวิตามินซีสูงจะช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเสียหายของเซลล์ในร่างกาย เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี แอปเปิล ฝรั่ง และอาหารที่มีกรดอะมิโน N-acetyl Cysteine เช่น หัวหอม กระเทียม ไข่ เนื้อแดง และแตงโมง เพราะอาหารเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางเดินหายใจทำให้ปอดและระบบหายใจของเราแข็งแรงนอกจากอาหารที่ควรรับประทานในข้างต้นแล้วเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อีกด้วยค่ะ

วิตามินซี, พริกไทย, พอดี, สีแดง, อาหาร, มังสวิรัติ

ที่มารูปภาพ : pixabay.com

             และสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรลืมคือ การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นการออกกำลังกายที่กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้นทำให้ปอดก็ต้องทำงานมากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ปอดก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพดีมากขึ้นเท่านั้น  เช่น การเดินย้ำอยู่กับที่โดยใช้เวลา 1 นาที  , การเดินยกขาสูง โดยการเดินยกขาสูงอยู่กับที่ ทำจนครบ 20ครั้ง ,การวิ่งเหยาะๆหรือวิ่งช้าๆอยู่กับที่ ใช้เวลาในวิ่ง 1 นาที ,การวิ่ง หรือ การว่ายน้ำ ตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป

การออกกำลังกาย, คน, การฝึกอบรม, กีฬา, ต้อนรับ, คาร์ดิโอ

ที่มารูปภาพ : pixabay.com

              นอกจากการออกกำลังกายแล้ว เรายังมีเทคนิคบริหารปอดมาฝากเริ่มที่ การสูดหายใจเข้าลึกๆ โดยหายใจเข้าและออกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ขณะหายใจเข้าให้นั่งหรือยืนตัวตรง ยกหน้าอกขึ้นเพื่อให้ปอดได้ขยายตัวอย่างเต็มที่ แล้วค่อยๆ หายใจออก ทำแบบนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ปอดได้ทำงานอย่างเต็มที่ และวิธีต่อมาก็คือ การนับลมหายใจ เป็นการนับคร่าวๆ ว่าการหายใจเข้าและหายใจออกแต่ละครั้งใช้เวลาเท่าไหร่ อาจเริ่มโดยการนับ 1, 2, 3 ไปเรื่อยๆ จนหายใจเข้าเต็มปอดแล้วหยุดนับ และเริ่มนับ 1 อีกครั้งเมื่อหายใจออก ทำซ้ำแบบนี้สัก 5 ครั้งต่อวัน จากนั้นค่อยเพิ่มความยากโดยการตั้งเป้าเพิ่มช่วงเวลาในการหายใจให้นานขึ้นเรื่อยๆ การทำแบบนี้ปอดจะได้ออกกำลังมากขึ้น แต่การฝึกนับลมหายใจควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่ากดดันตัวเอง อย่าฝืนสูดลมหายใจ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้

Woman opening her arms Free Photo

ที่มารูปภาพ : freepik.com

              ทั้งหมดนี้คือการดูแลปอดให้แข็งแรงทั้งจากภายในและภายนอกที่นำมาฝากกัน  แต่หากเกิดความผิดปกติ เช่น เช่น หายใจไม่สะดวก ,แสบตา ระคายเคืองตาอย่างมาก ,มีน้ำมูก นานกว่า 1 สัปดาห์ ,ไอ จามเรื้อรัง นานกว่า 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินัฉัยและรักษา ท้ายสุดนี้อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอเมื่ออกนอกบ้านและล้างมือให้สะอาดอยู่เป็นประจำ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงห่างไกลจากโควิด-19 และPM2.5 ค่ะ

 

ที่มา : โรงพยาบาลขอนแก่น ราม , พบแพทย์,มูลนิธิสาธารณสุขไทย ,SIRRIRAJ ONLINE,โรงพยาบาลพญาไท

Young@Heart Show