ภัยแฝงในร่างกายกับ โรคลำไส้รั่ว

Share:

          ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้! ปวดท้องบ่อยๆอย่างไม่ทราบสาเหตุ มีแก๊สในทางเดินอาหารมากผิดปกติ ย่อยอาหารบางชนิดไม่ได้ มีอาการท้องเสียเรื้อรัง เหนื่อยง่าย มือเท้าเย็น น้ำหนักขึ้นง่ายผิดปกติ ปวดศีรษะหรือปวดตามข้อต่าง ๆ มีผื่นคัน และเกิดสิวเรื้อรังที่รักษาไม่หาย นี้คืออาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเผชิญอยู่กับ โรคลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome) ที่มีความเสี่ยงส่งผลให้เป็นโรคอื่นๆตามมาได้ วันนี้ Young @Heart Show จะพาไปทำความรู้จักโรคนี้กันค่ะ

ที่มา : pixabay.com

          โรคลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome) คือ ภาวะที่ลำไส้ เยื่อบุผนังลำไส้ดูดซึมและทำงานผิดปกติ โดยอาการจะเกิดขึ้นบริเวณเซลล์ดูดซึมสารอาหารที่ไม่เรียงตัวชิดกันของลำไส้เล็กที่มีการอักเสบ ทำให้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ได้ ส่งผลให้สารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ สามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ ร่างกายของเราก็จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อมาต่อต้านสารพิษหรือสิ่งแปลกปลอม ผลที่ตามมาก็คืออาการอันไม่พึงประสงค์และทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ลำไส้แปรปรวน (IBS) ลำไส้อักเสบโครห์น (Crohn’s disease) ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ปลอกประสาทอักเสบ (multiple sclerosis) ต่อมหมวกไตบกพร่อง แพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง (SLE) หรือไทรอยด์อักเสบ เป็นต้น

ที่มา : pixabay.com

          แม้ในทางการแพทย์จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคแต่ได้มีการสมมติฐานว่าอาจเกิดจาก ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารประเภทแป้งขัดสี นม และน้ำตาลมากเกินไป การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด แก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs หรือเป็นโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคตับ โรคเบาหวาน

ที่มา : pixabay.com

          โรคลำไส้รั่ว สามารถตรวจรักษาโดยแพทย์อาจให้กลืนแป้งหรือน้ำตาลโมเลกุลใหญ่เพื่อตรวจดูสิ่งตกค้างในปัสสาวะ ถ้าพบว่าน้ำตาลในปัสสาวะไม่ผ่านการย่อย แสดงว่ามีอาการลำไส้รั่วอย่างแน่นอน และถ้ามีอาการของโรคอื่นๆร่วมด้วย แพทย์จะรักษาตามอาการอื่นๆที่ร่วมด้วย ควรคู่กับการดูแลตัวเองปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหาร เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดความกังวล ลดการสูบบุหรี่ งดอาหารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบในลำไส้เช่นอาหารที่ผ่านการแปรรูป งดแป้ง ขนมปัง นม ขนมหวาน เบเกอรี่ ไข่ น้ำตาล กาแฟ แอลกอฮอล์ เน้นการทานอาหารสด ผักสด ผลไม้ ทานข้าวไม่ขัดสีและน้ำตาลทรายแดง นอกจากนี้การทานอาหารที่มีแบคทีเรียที่ดี เช่นโยเกิร์ต โพรไบโอติก คอมบูชา คีเฟอร์ กิมจิ จะช่วยให้ลำไส้ฟื้นฟูตัวได้เร็ว ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและลดการอักเสบของลำไส้ได้

ที่มา : pixabay.com

          แม้โรคลำไส้รั่ว อาจดูร้ายแรงและนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ แต่เซลล์ที่ผนังลำไส้จะมีการสร้างขึ้นใหม่ทุกๆ 5-7 วัน อาการลำไส้รั่วดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นอาการที่เกิดขึ้นถาวร แต่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิต งดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำลายสุขภาพ แต่ถ้ามีอาการที่รุนแรงและมีโรคอื่นที่รุนแรงร่วมด้วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลค่ะ

 

 

 

ที่มา : สำนักการแพทย์กรุงเพทมหานคร , โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล , Bangkok Health Clinic

Young@Heart Show