ระวังสนุกในออนไลน์จนทำร้ายคนในโลกจริง !

Share:

          ต้องทันทุกกระแสดรามาในโซเชียล เกาะติดทุกประเด็นที่ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ จนรู้สึกมีอารมณ์ ร่วมกับประเด็นต่างๆ จนเผลอแสดงความคิดเห็นที่รุนแรง ด่าทอต่อบุคคลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามมหาชนคนโซเชียล โดยไม่ทันได้ใช้สติคิดไตร่ตรอง หรือสืบหาข้อเท็จจริงเสียก่อน ถ้าคุณกำลังเป็นเช่นนี้ต้องระวัง เพราะคุณอาจจะกำลัง Cyber bully ระรานผู้อื่นทางไซเบอร์แบบไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลร้ายให้กับผู้อื่นและตัวคุณเองแบบคาดไม่ถึง

ที่มา : pexels.com

          การกระทำแบบไหนที่เรียกว่า Cyber bully เริ่มตั้งแต่การด่าทอ เหยียดหยาม การล้อเลียน ตั้งฉายา การข่มขู่คุกคาม การโพสต์ข้อความคลุมเครือ โดยไม่บอกชื่อแต่ผู้อ่านสามารถรู้ว่าใคร การเผยแพร่ความลับทำให้ผู้อื่นเสียหาย การปล่อยข่าวลือ การตั้งกลุ่มนินทา การแอบอ้างบัญชีโซเชียลมีเดียนำไปกลั่นแกล้งผู้อื่น และการปลอมแปลงบัญชีโซเชียลมีเดียในการด่าทอผู้อื่น ถ้าคุณกำลังทำเช่นนี้ต้องรีบตั้งสติและแก้ไขก่อนจะสาย อย่าลืมว่าท่ามกลางความสนุกสนานในโลกออนไลน์ แต่ผลกระทบจะเกิดขึ้นจริงกับคนที่ถูกคุณ Cyber bully ทั้งทางจิตใจ วิถีชีวิต การงานและอนาคตของเขาได้ ซึ่งคุณเองก็สามารถกลายเป็นเหยื่อได้เช่นกันหากไม่หยุดวงจรนี้

ที่มา : pexels.com

          ดังนั้นเพื่อหยุดการ Cyber bully สิ่งแรกคือต้องมีสติทุกครั้งในการรับ ส่งข้อมูลและความคิดเห็นต่างๆออกไปเสมอ โลกโซเชียลไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวในการระบายอารมณ์ แต่เป็นพื้นที่สาธารณะที่ข้อมูลเผยแพร่ออกไปแล้วจะส่งผลกระทบในวงกว้างได้ จากนั้นควรตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ได้รับว่ามีความน่าเชื่อถือหรือข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันมีข่าวลวงเป็นจำนวนมากที่สร้างความเข้าใจผิด ใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชัง อีกสิ่งที่สำคัญคืออย่าลืมความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นก่อนจะด่าทอหรือต่อว่า ต้องคิดเสมอว่าคนที่คุณกำลัง Cyber bully นั่นก็มีอารมณ์ความรู้สึก และชีวิตจริงๆนอกโลกออนไลน์เช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อต้องเจ็บป่วยทางจิตใจ และเสียโอกาสในชีวิต จากการโพสต์เรื่องโกหกลงเชียลมีเดียเพื่อความบันเทิงของใครบางคนเพียงแค่นั้น

ที่มา : pexels.com

          นอกจากผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ถูก Cyber bully แล้วนั้น ตัวผู้กระทำเองก็อาจจะเข้าค่ายผิดกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ กรณีที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น การโพสต์ด่าว่าผู้อื่น ไม่มีข้อมูลจริง หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้โพสต์ได้ และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่แชร์มีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3 เป็นต้น จะเห็นได้จากรณีศึกษามากมายที่ชาวโซลเชียลถูกนักแสดงฟ้องร้อง หลังโพสต์ด่าทออย่างรุนแรง จนสุดท้ายต้องมาขอโทษและจ่ายค่าเสียหายหลักแสน เรียกว่าสนุกในโลกออนไลน์แต่เดียวดายในชั้นศาลฉะนั้นหยุดคิดสักนิดก่อนโพสต์ ก่อนแชร์ ก่อนแสดงความคิดเห็นใดๆด้วยอารมณ์ ก่อนที่จะสาย จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกันนะคะ

 

 

ที่มาข้อมูล

กองบัญชาการตำรวจสันติบาล  

 

Young@Heart Show