YOUNG@HEART SHOW : อันตรายจากแสงสีฟ้า!

Share:

          แสงสีฟ้าสิ่งที่เราต้องเผชิญกันทุกวันจากจอสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น จอคอมฯ จอโทรโทรทัศน์ จอแท็บเล็ต ส่งผลต่อสุขภาพ ที่โดนเต็มๆ เลยก็คือดวงตา แสงสีฟ้าจะส่งผลต่อสุขภาพเรามากน้อยแค่ไหนมาดูกันเลยค่ะ

 

แสงสีฟ้า, blue light

ภาพจาก Pexels.com

 

แสงสีฟ้าคืออะไร?

          แสงสีฟ้า (Blue Light) มีพลังงานอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 450-500 นาโนเมตร ใกล้เคียงกับรังสียูวี แต่มีอานุภาพรุนแรงกว่า ทำร้ายดวงตาได้ลึก เมื่อจ้องจอเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหน้าโดนทำร้ายคล้ายกับโดนรังสียูวีอีกด้วย

 

แสงสีฟ้า, blue light

ภาพจาก Pexels.com

 

อันตรายของแสงสีฟ้า

1. ทำลายจอประสาทตา แสงสีฟ้าสามารถทะลุเข้าไปในดวงตาได้มากกว่าแสงสีอื่น ทำให้เสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมได้

2. ยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน ซึ่งส่งผลให้นอนไม่หลับ คุณอาจจะเคยได้ยินมากว่าเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน จะทำให้นอนไม่หลับ แสงสีฟ้านี่แหละคือสาเหตุ

3. ทำให้ตาแห้ง เวลาที่จ้องจอนานๆ มันจะเพลินจนลืมกระพริบตา ให้ตาแห้งและแสบได้

4. ทำให้ตาพร่ามัว มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน

5. ทำให้ปวดตา กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า

6. ทำให้จอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควร

7. ทำร้ายผิวหน้า ทำให้มีริ้วรอยก่อนวัยค่ะ

 

 

          แสงสีฟ้าจะทำลายดวงตาของเด็กๆ ได้มากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เด็กมีโอกาสสายตาสั้นเทียมได้ค่ะ

แสงสีฟ้า, blue light

ภาพจาก Pexels.com

 

วิธีการปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า

1. ใส่แว่นกันแสงสีฟ้าเวลาทำงานหน้าจอคอมฯ หรือเล่นสมาร์ทโฟน

2. ปรับความสว่างของจอต่างๆ ให้พอดีกับแสงในห้อง

3. ไม่เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้องมืด

4. พักสายตาบ่อยๆ กระพริบตาถี่ๆ วิธีพักสายตาที่ดีที่สุดคือการนอนค่ะ

5. หน้าจอควรห่างจากดวงตาประมาณ 40 ซม.

 

แสงสีฟ้า, blue light

ภาพจาก Pexels.com

 

          ถ้าใครเริ่มมีปัญหาตาล้า ปวดตา เวลาทำงานหน้าจอนานๆ ก็ต้องพักสายตาบ้างนะคะ ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ และวันหนึ่งเมื่ออายุมากขึ้นตาก็จะเสื่อมไปเองอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปเร่งให้ตาเสื่อมเร็วกว่าที่ควรนะคะ ควรเล่นโทรศัพท์ให้น้อยลง จ้องจอคอมฯให้น้อยลง ดวงตาจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ 

 

 

ข้อมูลจาก: med.mahidol.ac.th

Young@Heart Show