ญี่ปุ่นยังจำกัดส่งออกวัตถุดิบไฮเทคให้เกาหลีใต้

897
0
Share:

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์น่ากังวลเพิ่มขึ้นเมื่อ ญี่ปุ่น ประกาศจำกัดโควตาการส่งออกส่วนประกอบสำคัญ 3 ประเภท ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ และการผลิตหน้าจอเทคโนโลยีอันล้ำสมัยไปยังเกาหลีใต้ โดยมาตรการดังกล่าวส่งผลต่อ ซัมซุง บริษัทของเกาหลีใต้ และส่งผลต่อโลกด้วยเพราะ ซัมซุง นอกจากจะผลิตชิปแล้ว ยังเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่สุดของโลกด้วย
.
โดยในเดือนกรกฎาคมนี้ มูลค่าในตลาดของซัมซุง บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ลดลงไปถึง 16 ล้านล้านวอน หรือ 4.3 แสนล้านบาท ในขณะที่มูลค่าของเอสเค ไฮนิกซ์ ลดลงไปราว 1.5 ล้านล้านวอน ซึ่งทั้งสองบริษัทรวมกัน มีสัดส่วนถึงร้อยละ 60 ในศักยภาพการผลิตชิปป้อนตลาดโลก
.
ซึ่งกลุ่มสารประกอบที่ญี่ปุ่นจำกัดโควตาส่งไปยังเกาหลีใต้นั้น ประกอบด้วย fluorinated polyimide ที่ใช้สำหรับการผลิตแผงพับได้ เช่น กาแลคซี่ โฟลด์ ของซัมซุง ในขณะที่ Photo-resists นั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตชิป ส่วน hydrogen fluoride นั้นจำเป็นสำหรับการผลิตชิปและการผลิตอุปกรณ์ดิสเพลย์ต่างๆ
.
ด้านนายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะไม่เจรจากับเกาหลีเพื่อยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกนี้ เพราะดำเนินการเพื่อปรับปรุงกระบวนการควบคุมการส่งออกของญี่ปุ่น และไม่มีความคิดที่จะเพิกถอนมาตรการนี้
.
แต่การเจรจาในระดับปฏิบัติการณ์นั้นอาจเป็นไปได้ และญี่ปุ่นพร้อมจะให้คำอธิบาย เพราะทราบว่าทางเกาหลีมีการขอข้อมูลยืนยันเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการนี้
แต่ก็มีโอกาสที่มาตรการควบคุมการส่งออกจะเข้มงวดขึ้นอีก แต่หากจัดการการควบคุมการส่งออกได้ดีก็อาจจะผ่อนคลายมาตรการลง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งสองทาง
.
โดยเชื่อว่าการที่ญี่ปุ่นออกมาตรการนี้ เนื่องจากเกาหลีใต้ได้ให้บริษัทเอกชนญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยการบังคับใช้แรงงานชาวเกาหลี สมัยญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีเป็นอาณานิคมช่วงปี 1910-1945 แม้ญี่ปุ่นจะชี้ว่าได้ชำระเงินในส่วนนี้ไปแล้วในการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งมีการลงนามกันทั้งสองฝ่าย 1965 แต่เกาหลีชี้ว่านั่นไม่นับรวมถึงผลกระทบที่เกิดต่อประชาชนเกาหลีเป็นรายบุคคล สร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลญี่ปุ่น นำมาสู่มาตรการควบคุมการส่งออกวัตถุดิบเทคโนโลยีที่เกาหลีต้องพึ่งพิงญี่ปุ่น