ตลาดหุ้นสหรัฐสุดแกร่งที่สุดใน 5 ปี ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ควงเอสแอนด์พี 500 ปิดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

92
0
Share:
ตลาดหุ้นสหรัฐสุดแกร่งที่สุดใน 5 ปี ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ควงเอสแอนด์พี 500 ปิดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,807 จุด +47 จุด หรือ +0.12% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,254 จุด +5 จุด หรือ +0.11% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,379 จุด -20 จุด หรือ -0.12% ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ ขณะที่ในสัปดาห์ผ่านไป ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งในแง่รายเดือนปิดขึ้นแดนบวกเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

เมื่อสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทะยานขึ้น +2.22%, +5.17% และ +6.12% ตามลำดับ ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นปิดขึ้นแดนบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่พฤษภาคม 2021 เป็นต้นมา

สาเหตุจากนักลงทุนหันกลับมาเก็บหุ้นในแทบทุกกลุ่ม หลังจากมีราคาร่วงลงอย่างต่อเนื่องใน 2 วันทำการก่อนถึงคืนวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดการทำกำไรในหุ้นในแทบทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นผลจากในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่งปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์รอบใหม่ รวมถึงความกังวลว่าราคาหุ้นแทบทั้งหมดในแต่ละกลุ่อุตสาหกรรมอาจมีราคาสูงเกินปัจจัยพื้นฐานจริงมากเกินไป ขณะนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐในเดือนมีนาคมกำลังจะทำสถิติรายเดือนปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดเพิ่มขึ้น +0.8%, +2.0% และ +1.8% ตามลำดับ

ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 70% จากเดิมที่ระดับ 79%