นายกฯยัน “ไม่ลาออก” เล็งประกาศเคอร์ฟิว หากเหตุการณ์บานปลาย

775
0
Share:

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่เขตกรุงเทพมหานครว่า รัฐบาลมุ่งหวังเพื่อให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ให้สอดคล้องสถานการณ์โควิด 19
.
เมื่อวานได้มีการหารือกับฝ่ายเศรษฐกิจว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าทั้งในและต่างประเทศ และให้เกิดการใช้งบประมาณอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่ชายแดน ถ้าสถานการณ์ปกติก็คงไม่ต้องมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแบบนี้ และมุ่งหวังจะใช้ให้สั้นที่สุด จึงได้ใช้เพียงแค่ 30 วัน หรือน้อยกว่านั้น ถ้าสถานการณ์คลี่คลายได้โดยเร็วไม่ได้มุ่งหวังทำร้ายใคร
.
“แต่ท่านต้องดูว่าทุกวันที่เกิดขึ้นมีใครถูกทำร้ายบ้าง ก็คือเจ้าหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำเกือบทั้งสิ้น ทุกอย่างแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์มันไม่ใช่ปกติแล้ว และเหตุการณ์สำคัญอื่นๆก็เกิดขึ้น ทุกคนทราบดี”
.
นอกจากนี้ยังเป็นห่วงผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด จึงได้ให้แนวทางปฏิบัติกับผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ไปแล้ว อาทิผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และขอให้ทุกหน่วยงานระมัดระวังในการบังคับใช้กฎหมายนี้ด้วย เพราะกฎหมายในเรื่องพ.ร.บ.ชุมนุมเดิมไม่ได้ใช้แล้ว และกฎหมายที่ประกาศใหม่นี้มีอำนาจทุกอย่าง ทั้งตรวจค้น ห้ามเข้า ห้ามออก รื้อค้น และเตือนไว้ว่าอย่าทำผิดกฎหมาย และนักธุรกิจได้ร้องเรียนมาที่ตนจำนวนมาก จึงปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะต้องนึกถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ และการที่ต้องนำกำลังคนมาดูแลการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็ทำให้ทุกอย่าเสียไปทั้งหมด
.
“สื่อที่ทำข่าวในพื้นที่ชุมนุมกรุณาติดปลอกแขนด้วยว่าเป็นสื่อจากที่ใด ถ้าไม่ติดปลอกแขนห้ามเข้าพื้นที่” เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ให้มีการนำรูป ที่อาจมีการถ่ายหลายมุม ทำให้เกิดความความสับสนอลหม่าน ถ้าไม่ช่วยกัน ให้รัฐบาลทำอย่างเดียว จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ทั้งความมั่นคง และ เศรษฐกิจ
.
เรื่องการเมืองก็เดินหน้าตามแผน การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เดินตามกฎระเบียบ และรัฐบาลมีแนวทางดำเนินการอยู่แล้วตามขั้นตอนกฎหมาย วันนี้จึงขอเตือนกลุ่มที่กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการกระทำผ่านสื่อโซเชียล ที่บิดเบือน ขอให้ระมัดระวังด้วย
.
ส่วนแนวทางการประกาศเคอร์ฟิว มีระบุอยู่ในประกาศ แต่ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องทำถึงจุดนั้น แต่ถ้าเหตุการณ์ลุกลามบานปลายก็คงต้องปฏิบัติ และได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างประเทศแล้ว
.
ส่วนการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ก็มีการรวบรวมจากหลายเวที เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ ยืนยันว่าจริงใจในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของนิสิตนักศึกษา แต่ต้องถามกลับไปว่าจริงใจกับตนรึเปล่า
.
ทั้งนี้เมื่อการสอบถามเพื่อยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่งตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น นายกฯระบุว่า “ไม่ออก” และไทยยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นฮ่องกงโมเดล
.
พร้อมยังระบุว่า “ผมความทำผิดอะไรหรือ ผมทำผิดอะไรหรือ ขอถามท่านซิ”