นิวไฮตลอด! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทะยานกว่า 170 จุด

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 32,953 จุด +174 จุด หรือ +0.53% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,968 จุด +25 จุด หรือ +0.65% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,459 จุด +139 จุด หรือ +1.05% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยเป็นครั้งที่ 14 ในปีนี้

.

นอกจากนี้ ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวันเป็นครั้งที่ 21 อีกด้วย เช่นเดียวกันกับ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยเป็นครั้งที่ 13 ในปีนี้ นอกจากนี้ ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวันเป็นครั้งที่ 16

สาเหตุจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี ที่กลับมาลดลงแตะที่ระดับ 1.6% ในคืนที่ผ่านมา ซึ่งลดต่ำลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2020 เป็นต้นมา นอกจากนี้ อัตราการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ที่เข้าใกล้เป้าหมายในการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ

.

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 65.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.34% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 68.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ทะยานขึ้นถึง 67.98 และ 71.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลตามลำดับ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน

สาเหตุจากการขายทำกำไรระยะสั้นจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงในรอบกว่า 2 ปี ก่อนหน้านี้ จากปัจจัยปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา ลดต่ำลงถึง 11.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ลงมาเหลือเพียง 231.6 ล้านบาร์เรล ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าลงในกรอบแคบๆ

.

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,729.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +9.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.5% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแกว่งตัวในทิศทางอ่อนค่าลง และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นปรับลดลงต่ำกว่าสถิติสูงสุดในรอบสูงสุด 1 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป