สงครามลดราคารถไฟฟ้าเทสลาสูบกำไรทรุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี

227
0
Share:

เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น แบรนด์รถไฟฟ้าระดับหรูหราของโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีนี้ พบว่า ผลกำไรในภาพรวมอยู่ที่ 19.3% ไม่เพียงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 22.4% – 23.2% แต่ยังเป็นผลกำไรรวมที่ลดต่ำกว่าผลกำไรรวมเฉลี่ยในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ระดับ 20% ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ เทสลายังมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสต๊อกในไตรมาสที่ 1 เพิ่มสูงแตะ 14,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 503,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมาที่ระดับ 6,690 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 234,150 ล้านบาท
ขณะที่ผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ตกต่ำลงเกือบ 25% มาอยู่ที่ 2,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 878,500 ล้านบาท ท่ามกลางรายได้ในภาพรวมอยู่ที่ 23,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 815,500 ล้านบาท
สาเหตุจากเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ใช้มาตรการลดราคาขายปลีกใน 2 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ รุ่นโมเดล 3 และโมเดล Y ทั่วโลกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน โดยประกาศลดราคาในหลายประเทศตั้งแต่สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เป็นต้น
นักวิเคราะห์ประเมินว่า เทสลาอาจจะต้องลดราคาขายปลีกรถไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นต่อเนื่อง ท่ามกลางราคาขายปลีกรถไฟฟ้าสัญชาติจีนที่มีราคาถูกกว่า และกำลังขยายตลาดอย่างรวดเร็วทันใจในทั่วโลก รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดรถไฟฟ้า เช่น สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่ารัฐบาลอเมริกันจะใช้มาตรการสนับสนุนการคืนเครดิตภาษีให้กับประชาชนที่ซื้อรถไฟฟ้า แต่กลับพบว่ายอดขายรถไฟฟ้าเทสลาในตลาดสหรัฐอเมริกากลับเพิ่มขึ้นปานกลางเท่านั้น
ทั้งนี้ เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าในปีนี้ มีเป้าหมายส่งมอบรถไฟฟ้าทั่วโลกที่ 1.8 ล้านคัน