สภากาชาดสากลวอนชาติร่ำรวยช่วยอาเซียนแก้วิกฤตโควิด ต้องฉีด 70-80% ในอาเซียน

400
0
Share:

นายอเล็กซานเดอร์ แมทธิว ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย ทำให้ชะตากรรมในการสูญเสียครอบครัวในกลุ่มประเทศทั่วอาเซียนยังห่างไกลจากจุดสิ้นสุด

ส่วนใหญ่ของประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนรวมทั้งเวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย มีสถิติของจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตมากเป็นประวัติการณ์มาตลอด ในขณะที่ประเทศอย่างแคนาดา สเปน และสหราชอาณาจักร ซึ่งมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสราว 60% ของประชากรในแต่ละประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาที่ฉีดครบโดสถึงกว่า 55% นั้น กลุ่มประเทศอาเซียนกลับตามหลังอย่างมาก

บนความแตกต่างในกลุ่มชาติอาเซียน จะเห็นว่าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรจำนวนมากในกลุ่มอาเซียน มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสประมาณ 10-11% ในขณะที่ประเทศเวียดนามมีการฉีดครบโดสเพียง 2% ของคนทั้งประเทศ

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงระยะสั้น อาเซียนต้องการความพยายามอย่างมากจากประเทศที่ร่ำรวยที่จะแบ่งปันวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่มีเหลืออย่างเร่งด่วนให้กับชาติสมาชิกในกลุ่มอาเซียน นอกจากนี้ บริษัทที่ผลิตวัคซีนชั้นนำ และรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยแบ่งปันเทคโนโลยี และการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน

ทั้งนี้ นายอเล็กซานเดอร์ แมทธิว กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในกลุ่มอาเซียนจะต้องทำให้ได้ 70-80% ของจำนวนประชากรทั้งกลุ่มอาเซียนด้วย