สิงคโปร์เตือนประชาชนออกจากเมียนมาด่วน

คริสทีน ชราเนอร์ เบอร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษประเมินสถานการณ์เมียนมาแห่งองค์การสหประชาชาติ กรือยูเอ็น แถลงว่า ตั้งแต่กองทัพทหารเมียนมาเข้าทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา พบว่ามีประชาชนชาวเมียนมาในหลายเมืองที่เข้าร่วมชุมนุมประท้วงการทำรัฐประหารต้องเสียชีวิตสะสมมากถึง 59 ราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประชาชนเสียชีวิตมากถึง 38 รายภายในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา และนับเป็นวันที่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากที่สุด ซึ่งเป็นผลจากการที่กองทัพทหารใช้มาตรการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยอาวุธปืนพร้อมกระสุนจริง และกระสุนยาง นอกจากนี้ สถานการณ์ประท้วงในปีนี้ มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าเหตุการณ์ประท้วงทางการเมืองในเมียนมาเมื่อปี 2007 ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 31 ราย
.
สถานการณ์ที่รุนแรงในแต่ละวัน และแต่ละเมืองของการชุมนุมประท้วงการทำรัฐประหาร ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเมียนมาเข้าจับกุมประชาชนชาวเมียนมาที่ออกมาชุมนุมประท้วงมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,300 ราย รวมถึงรายงานตัวเลขประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 200 ราย นับตั้งแต่กองทัพทหารเริ่มทำรัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึงปัจจุบัน
.
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สิงคโปร์ ได้ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 500 คน ที่อยู่ในประเทศเมียนมา รีบพิจารณาเดินทางกลับประเทศสิงคโปร์อย่างเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ หลังจากสถานการณ์ในประเทศเมียนมาทวีความรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นไม่มีความปลอดภัยในชีวิต และเกิดการสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
.
สำหรับท่าทีขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น พบว่าสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีนแผ่นดินใหญ่ จะเปิดการประชุมหาเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ในวันพรุ่งนี้ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อหาทางออกกับสถานการณ์ในเมียนมาที่มีความรุนแรงถึงขั้นทีประชาชนเสียชีวิตเกินครึ่งร้อยราย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศ วิเคราะห์ว่า หนึ่งในท่าทีของการประชุมดังกล่าว อาจมีข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเมียนมาจากยูเอ็น แต่ที่ประชุมดังกล่าวอาจไม่สามารถผลักดันมาตาการคว่ำบาตรได้ เนื่องจากประเทศรัสเซีย และจีนแผ่นดินใหญ่ อาจะใช้สิทธิทำการคัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคง