YOUNG@HEART SHOW : ระวัง RSV ไวรัสร้ายคร่าชีวิตเด็ก

Share:

             ช่วงนี้นอกจากโควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนักไปทั่วทั้งโลกที่ทำให้เราต้องหันมาดูแลเอาใจใส่ตัวเองแล้ว โรค RSV เป็นอีกหนึ่งโรคที่กำลังระบาดอย่างหนักในประเทศไทย ซึ่งร้ายแรงขนาดทำให้เด็กๆเสียชีวิตได้  ดังนั้นพ่อ แม่และผู้ปกครองไม่ควรประมาท มาทำความรู้จักวิธีการป้องกันโรคโรคนี้กันค่ะ

             โรค RSV หรือชื่อเต็มคือ Respiratory Syncytial Virus  เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากแล้วมักเกิดในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี และพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเชื้อไวรัส RSV มี 2 กลุ่ม คือกลุ่ม A และ B ซึ่งมีความสัมพันธ์กันแต่ไม่ใช่ตัวเดียวกัน ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยครั้งแรกไม่สามารถป้องกันได้ แต่ถ้าเป็นซ้ำๆกันอาการจะไม่รุนแรงมากเท่ากับในครั้งแรก

Asian baby sick but refuses eating medicine by syringe with copyspace Premium Photo

             โดย RSV นั้นสามารถติดต่อโดยผ่านสารคัดหลั่งในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ละอองจากการไอ จาม โดยเฉพาะการติดต่อจากการสัมผัส ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน โดยในช่วง 1-2 วันแรกมักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล แต่ในช่วงวันที่ 3-5 ของโรคจะมีอาการรุนแรงมากที่สุดเช่น ทางเดินหายใจส่วนล่างมีการอักเสบ จนเกิดโรคหลอดลมอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ และโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งในบางรายอาจเกิดอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงครืดคราด มีเสมหะในลำคอเป็นจำนวนมาก และหลังจากนั้นอาการก็จะทุเลาลง

              แต่อาการที่ต้องระวัง คือ ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ไอจนอาเจียน หายใจเร็วหอบจนชายโครงหรืออกบุ๋ม หายใจออกลำบากหรือหายใจมีเสียงวี้ด (Wheezing) รับประทานอาหารได้น้อย ซึมลง ปากซีดเขียว เป็นอาการของผู้ป่วย RSV ที่มีอาการหนักทำให้มีโอกาสเสียชีวิตเนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้สูง

              การรักษาโรค RSV ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ โดยทั่วไปการรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นรวมถึงการดูแลเรื่องการหายใจและเสมหะ เช่น การให้ยาลดไข้ แก้ไอละลายเสมหะ การพ่นยาขยายหลอดลมผ่านทางออกซิเจน เคาะปอด และดูดเสมหะออก เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีการหายใจที่ดีขึ้นไม่หอบเหนื่อย

Baby is measured temperature by the electorate temperature. child's health Premium Photo

              ผู้ปกครองสามารถป้องกัน RSV ให้กับบุตรหลาน ด้วยการดูแลความสะอาดให้ดี หมั่นล้างมือตัวเองและลูกบ่อย ๆ เพราะการล้างมือสามารถลดเชื้อที่ติดมากับมือทุกชนิด รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ พักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายในอากาศที่ถ่ายเท ไม่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา จะเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง

              สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกป่วยเป็น RSV แล้วควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติเพื่อป้องกันการไอจามแพร่เชื้อให้กับผู้คนที่อยู่รอบข้างไม่ไปอยู่ในสถานที่แออัด ถ้าลูกเริ่มเข้าเนิร์สเซอรีหรือโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกหยุดเรียนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์จนกว่าจะหายเป็นปกติควรดูแลทำความสะอาดของใช้ส่วนตัวและแยกไว้ต่างหากเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ในเด็กบางรายถึงแม้จะหายแล้วก็ยังอาจมีอาการไอต่อเนื่องไปเป็นเดือนได้

 

ที่มา โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

Young@Heart Show