ตะลุยตำนานวังหลังสู่ย่านสแน็คแอนด์ฟู้ดส์สตรีทสุดปังกรุงเทพ l 12 ส.ค. 66 FULL l BTimes Weekend
Aug 13, 2023
นั่งเรือข้ามฟากแวะช้อปชิวๆ กับตลาดวินเทจในตำนาน ‘วังหลัง’ แหล่งรวมของอร่อย-ของแรร์ที่คนรักงานเก่าห้ามพลาด
เถียงไม่ได้เลยว่าเมื่อนึกถึงตลาดของมือสองปุ๊บ ‘ตลาดวังหลัง’ จะเป็นสถานที่แรกๆ ที่แว่บขึ้นมาในใจของวัยรุ่นยุคเก๋า ในอดีตต้องยอมรับเลยว่าตลาดสุดฮิปแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความยูนีค ที่ทำเอาคนรักของมือสองต่างแวะเวียนมาหาอยู่ร่ำไป กระทั่งโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลกมาเยือน ร้านรวงเก่าๆ ที่เปิดมานานบางร้านจำต้องโบกมือลา แต่ก็ยังไม่ทำให้ความขลังดั้งเดิมสูญหาย เพราะปัจจุบันสถานที่ในดวงใจแห่งนี้ได้กลับมาคืนชีพแล้ว
แม้วินาทีแรกที่ย่างเข้ามาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป มีการหมุนเวียนของร้านค้าบางเจ้า แต่ถ้ามองดีๆ หลายร้านก็คุ้นหน้าอยู่นะ ยกตัวอย่างเช่น ‘เบเกอรี่ วังหลัง’ ขนมปังก้อนยักษ์ไส้แน่นขึ้นชื่อ ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี แถวรอคิวซื้อก็ยังยาวอยู่ไม่ขาดสาย และปัจจุบันร้านเบเกอรี่แห่งนี้ได้ถูกส่งไม้ต่อมายังทายาทรุ่นที่ 2 ที่ยังคงรักษาความอร่อยไว้ได้ทุกอณูเนื้อขนมปัง ใครอยากลิ้มลองก็เลือกมาได้เลย เพราะวังหลัง เบเกอรี่มีถึง 3 สาขา คือในตลาดวังหลัง 2 สาขา และที่พรานนก 1 สาขา สนนค่าความอร่อยก็อยู่ที่ 55 และ 65 บาท
ร้านนี้ไม่เอ่ยไม่ได้ ‘อรทัย ซูชิวังหลัง’ ซูชิ-ทาโกะยากิเจ้าดังที่อยู่คู่ตลาดวังหลังมาอย่างยาวนาน ด้วยราคาที่เป็นมิตรเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ซูชิก็มีหน้าให้เลือกหลากหลาย ทานง่าย ถูกปาก รวมถึงทาโกะยากิที่ถ้าได้ทานตอนมาเสิร์ฟแบบอุ่นๆ ราดซอสฉ่ำๆ ต้องมีว้าวเพราะความอร่อย นอกจากซูชิ และทาโกะยากิท่าขึ้นชื่อ ทางร้านยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกรับประทานอีกด้วย
ถ้ายังไม่อิ่ม ต้องมาต่อที่ข้าวหน้าเป็ดแสนอร่อย จากร้าน ‘สุวรรณา ชวนเสวย’ ร้านเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านหน้าทางเข้าตลาดคนพันแนว โดยร้านแห่งนี้ไม่ได้ดีแค่ข้าวหน้าเป็ด แต่ยังมีข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวมันไก่ บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ให้เลือกสรร รสชาติก็คือ 10 10 10 เนื้อเป็ดมีความนุ่ม หมูกรอบก็กรอบกำลังดี เส้นบะหมี่ก็เริดเพราะฟินละมุนลิ้นมาก ยิ่งทานคู่กับซุปร้อนๆ ของทางร้าน ยิ่งเพิ่มความฟินจนต้องสั่งเพิ่ม ในด้านราคาก็ถือเหมาะสมกับความอร่อยเช่นกัน
ทานคาวแล้ว ต้องตบท้ายด้วยของหวาน เริ่มต้นที่ ‘เอแคร์วังหลัง’ ขนมและของฝากยอดฮิตที่เปิดมานานกว่า 19 ปี ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนตลาดแห่งนี้ ก็ต้องแวะมาซื้อติดไม้ติดมือกลับไปสักกล่อง โดยเอแคร์วังหลังมีให้เลือกช้อปถึง 3 รสชาติ ได้แก่ นมสด ช็อคโกแลต และใบเตย ที่ต้องยกนิ้วให้เพราะว่ารสชาตินั้นนัวทุกไส้ แถมพี่เจ้าของร้านยังแอบกระซิบว่าขนมนั้นสดใหม่ทุกวัน ไม่มีขายของซ้ำข้ามวันแน่นอน เรื่องราคาก็เบาๆ คุ้มความอร่อย เพียงกล่องละ 40 บาท รับเหมาๆ 3 กล่องก็อยู่ที่ 100 บาทเท่านั้น
อ่านมาถึงตรงนี้ก็ยังต้องเติมความหวานต่อเนื่องกับร้าน ‘ขนมถังแตกป้าติ๋ม (วังหลัง)’ ที่สายหวานพลาดไม่ได้ สตรีทฟู้ดขึ้นชื่ออีกอย่างที่ต่างชาติชอบมาลิ้มลอง โดยขนมถังแตกป้าติ๋มเดินทางเข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว แต่ความอร่อยยังคงจัดเต็ม เครื่องยังแน่นกัดเข้าไปคือฟินสุดๆ เพราะมีความหวานที่พอดิบพอดี มีกลิ่นหอมๆ นัวๆ ที่รับรองว่าสายหวานได้ชิม จะต้องวนกลับไปซื้ออีกแน่นอน กลับมาในส่วนของไส้ ก็มีให้เลือกลองเยอะมาก อาทิ ครีม ฝอยทอง ข้าวโพด สังขยะ เผือก ฯลฯ
หลังจากเติมความอร่อยให้ท้องเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงคิวของการช้อปปิ้ง ซึ่งในตลาดวังหลังไม่ได้มีเพียงแค่สินค้ามือสอง แต่สินค้าใหม่มือหนึ่งก็มีให้เลือกสรรเช่นกัน ซึ่งโซนของสินค้ามือสองหลักๆ จะอยู่ในส่วนของ ‘ตลาดเวิ้งประตูเขียว’ โดมผ้าใบขึ้นชื่อขุมทรัพย์ของสายวินเทจที่รักการคุ้ยเห็นแล้วจะต้องกรี้ด เพราะมีทั้งของแบรนด์และไม่แบรนด์ปะปนกันไป ด้านราคาก็ไม่แพงขึ้นอยู่กับสภาพสินค้า ยิ่งคนไหนตาดีๆ ก็อาจได้ของแรร์ในราคาประหยัดกลับบ้านอีกด้วย หากยังไม่จุใจกับโซนนี้ก็ต้องไปต่อที่ ‘ตลาดคนพันแนว’ ซอยเล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้ามือสองสภาพสวย ราคาก็เบา ที่ถึงแม้ปัจจุบันหลายๆ ร้านจะหายไป แต่ก็ยังคงมีร้านค้าเจ้าใหม่-เจ้าเก่าผสมกันให้สายช้อปมือสองได้เลือกซื้อหา
ทั้งนี้ ใครที่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนในวันหยุด ก็อยากให้ตลาดวังหลังเป็นสถานที่ในดวงใจที่ทุกคนเลือกจะมา เพราะนอกจากจะได้มาช้อปปิ้งสินค้า-อาหารแล้ว ถัดไปหน่อยสายมูก็ยังได้แวะเติมแต้มบุญขอพรหลวงปู่โต ณ วัดระฆัง และกราบสักการะพระเจ้าตากสิน พร้อมลอดแท่นพระเจ้าตากเสริมสิริมงคล ณ วัดอรุณฯ ได้อีกด้วย