นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าทางบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมอันดับต้นของเมืองไทย ยอมรับต้นทุนแพ็กเกจจิ้งที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งขวดพลาสติก กระป๋องอะลูมิเนียม ทำให้บริษัทพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้า โดยเบื้องต้นจะมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำอัดลม “เป๊ปซี่” ทุกขนาด และทุกแพ็กเกจจิ้ง ในอัตรา 1-2 บาทต่อขวด/กระป๋อง อย่างไรก็ตาม ทำให้เป๊ปซี่ ไซซ์เล็กราคาจะปรับขึ้น 1 บาทต่อขวด/กระป๋อง จากเดิม10 บาท เพิ่มเป็น 11 บาท, 12 บาทเป็น 13 บาทและ15 บาท เพิ่มเป็น 16 บาท ส่วน เป๊ปซี่ ที่ราคาตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป จะปรับขึ้นราคา 2 บาทต่อขวดขณะที่ราคาขายส่งก็จะมีการปรับขึ้นประมาณ 20-24 บาทต่อแพ็กซึ่งบริษัทได้แจ้งการปรับขึ้นราคาใหม่กับยี่ปั้วรวมทั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่ายตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ โดยทางบริษัทแม้ว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทยังคงจะทำแคมเปญให้ส่วนลดยี่ปั้วตัวแทนจำหน่าย ในราคาเดิมตลอดเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อให้ราคาขายปลีกคงราคาเดิมต่อไปอีก 1 เดือน และราคาขายปลีกใหม่จะมีการปรับขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในเบื้องต้นกรมฯ รับทราบและเห็นรายละเอียดตรงนี้แล้ว โดยกรมฯ จะเชิญบริษัทดังกล่าวมาหารือเร็วๆ นี้ เพื่อสอบถามผลกระทบต้นทุนที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร แม้ว่าน้ำอัดลมทุกยี่ห้อจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าควบคุมของกรมการค้าภายใน แต่ทุกสินค้าที่กรมฯติดตามดูอยู่จะพิจารณาอย่างละเอียด ดังนั้น เมื่อพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงเป็นไปตามกล่าวอ้างของบริษัทก็ต้องพิจารณาว่าจะสามารถตรึงราคาสินค้าชนิดดังกล่าวออกไปก่อนได้หรือไม่ แต่หากจะปรับขึ้นจริงก็ต้องปรับเท่ากับผลกระทบต่อต้นทุนเป็นสำคัญ โดยเน้นต้องสมเหตุสมผลเป็นหลักของการพิจารณา เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนมากจนเกินไป
