-
ฉาไป่ต้าวเตรียมเทรดตลาดหุ้น 23 นี้ กวาดเงินกว่า 11,000 ล้านบาท ระเบิดสงครามลดราคาชาไข่มุกในจีน
เสฉวน ไป่ฉา ไป่ต้าว อินดัสเตรียล ซึ่งเป็นธุรกิจเครือข่ายชานมไข่มุกใหญ่อันดับ 3 ในประเทศจีน เปิดเผยว่า เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในวันอังคาร 23 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะระดมทุนได้มากถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11,000 ล้านบาท ส่งผลกลายเป็นการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดในรอบ 5 เดือนผ่านมา ... -
มหาเศรษฐีไทยรวยพันล้านดอลลาร์พรึบ ไทย-กรุงเทพมีมหาเศรษฐีมากที่สุดอันดับ 1 ในอาเซียน
สถาบันวิจัยหูรุ่น (Hurun) ในเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยการจัดอันดับประเทศ และเมืองที่มีมหาเศรษฐีร่ำรวยระดับโลกมากที่สุด ประจำปี 2024 หรือ Hurun Global Rich List 2024 โดยใช้มูลค่าความมั่งคั่ง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตั้งแต่ 37 ล้านบาทขึ้นไปเป็นเกณฑ์ในการอันดับจำนวนมหาเศรษฐี ... -
ทายาทแบรนด์เจ้าของสโลแกน “คุณค่าที่คุณคู่ควร” รวยทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์
นางฟรองซัวส์ เบตตองกูร์ เมเยอร์ส ซึ่งเป็นทายาทผู้หญิงเพียงคนเดียวธุรกิจเจ้าของแบรนด์ลอรีอัล (L’Oreal) ผลิตภัณฑ์ความงามชื่อดังระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส และประธานหญิงของบริษัททีธีส และรองประธานคณะกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทลอรีอัล (L’Oreal Group) มีมูลค่าสินทรัพย์จากราคาหุ้นของบริษัทที่ปิดสูงขึ้นจนทำสถิติแตะ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.5 ล้านล้านบาท ส่งผลกลายมหาเศรษฐีหญิงคนแรกและคนเดียวของโลกที่มีมูลค่าทรัพย์สินแตะระดับ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก ... -
ช่องว่างใช้เงินซื้อความสุขคน 2 เจนห่างกันตั้งกว่า 40 ล้าน เจนซี(Z)มักน้อยสวนเจนวาย(Y)
เอ็มพาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการทางการเงินแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เปืดเผยผลสำรวจทัศนคติเงินกับการมีความสุขของคนทุกกลุ่มเจนเนอเรชั่น พบว่า คนอเมริกัน 6 ใน 10 หรือ 60% มีแนวโน้มเห็นด้วยว่า การมีเงินสามารถซื้อความสุขได้ และมองว่าต้องมีความมั่งคั่งเฉลี่ยประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 42 ล้านบาท คือจำนวนเงินที่ทำให้มีความสุขได้ นอกจากนี้ ... -
วัยรุ่นจีนผุดเศรษฐกิจบี1บี2 ไลฟ์สไตล์ยุคต้านสังคมแพง กินข้าว-ช้อปปิ้งชั้นใต้ดินในห้าง
คนรุ่นใหม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ในเมืองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ เช่น เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ มาวันนี้ใช้เงินตามร้านรวงชั้นใต้ดินของตึกสำนักงานและศูนย์สรรพสินค้าสุดหรูหรา นั่นหมายถึงคนจีนรุ่นใหม่ได้หันมาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการใช้จ่ายเงินในกระแสฮิตใหม่ที่เรียกว่า “เศรษฐกิจบี1บี2” หรือ B1B2 Economy กระแสหรือในที่สุดอาจกลายเป็นพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ชาวจีนในรูปแบบนี้ คือ การใช้ชีวิตอย่างธรรมดาหรือติดดิน ซึ่งแตกต่างกับที่เคยเกิดขึ้นมาช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น การไปช็อปปิ้งสินค้าหรือบริการ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีราคาถูกลง ที่สำคัญ ร้านต่างๆเหล่านี้ล้วนอยู่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าระดับหรูหรา นั่นจึงหมายถึง ... -
ตะลึงผลสำรวจญี่ปุ่น ชี้ถ้าอยากแต่งงานจัดๆ ต้องมีรายได้สูงเข้าไว้ | คุยกับบัญชา l 9 ต.ค. 66
“คุยกับบัญชา” กระทรวงแรงงาน ญี่ปุ่น ชี้ถ้าคนญี่ปุ่นจะชายหรือหญิง มีเงินมาก มีรายได้สูง โอกาสแต่งงานก็มีสูง -
ตะลึงผลสำรวจญี่ปุ่น ชี้ถ้าอยากแต่งงานจัดๆ ต้องมีรายได้สูงเข้าไว้ | คุยกับบัญชา EP.1398 l 9 ต.ค. 66
“คุยกับบัญชา” กระทรวงแรงงาน ญี่ปุ่น ชี้ถ้าคนญี่ปุ่นจะชายหรือหญิง มีเงินมาก มีรายได้สูง โอกาสแต่งงานก็มีสูง -
ดูหน้าไว้! วารสารการแพทย์ชั้นนำระดับโลกยืนยัน หน้าตามีไว้บอกความรวยอู้ฟูและความยากจน
อาร์ ทอรา บียอร์นดอตเทอ หนึ่งในทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา ได้นำงานวิจัยลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชื่อว่า “Journal of Personality and Social Psychology” ซึ่งเป็นวารสารเกี่ยวกับบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม ผลงานวิจัยดังกล่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหน้าตาของมนุษย์กับสถานะความเป็นอยู่ที่ดี และที่ยากไร้ โดยบทสรุปสำคัญ คือ คนที่มีฐานะดี หรือคนร่ำรวยจะมีหน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ... -
ห่อเหี่ยวใจ! ผงะครัวเรือนไทยยิ่งจน ยิ่งพิการมากขึ้น ยิ่งรวยยิ่งมีคนพิการน้อยลง
นางปิยนุช วุฒิสอน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยเกี่ยวกับผลสำรวจความพิการปี 2565 ซึ่งจัดทำขึ้นทุกๆ 5 ปี โดยสำนักงานสถิติและยูนิเซฟ พบว่า เมื่อดูจากปัจจัยฐานะทางเศรษฐกิจของครัวเรือนไทย นำไปสู่ข้อสรุปว่ายิ่งครัวเรือนยากจน ก็จะยิ่งมีคนพิการมากขึ้น ในปี 2565 ครัวเรือนที่มีฐานะยากจนมาก มีผู้พิการสูงที่สุดคือ 10.6% ซึ่งตรงกันข้ามกับครัวเรือนที่มีฐานะร่ำรวยมาก มีผู้พิการน้อยที่สุดที่ ... -
รวยวูบวาบ! ความร่ำรวยมหาเศรษฐี 500 คนแรกของโลกสูญรวมกว่า 50 ล้านล้านบาท
ดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก หรือ Bloomberg Billionaire Index พบว่ามูลค่าความร่ำรวยของมหาเศรษฐี 500 คนแรกของโลกในปี 2022 เสียหายรวมกันมากเกือบ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 50 ล้านล้านบาท สาเหตุในภาพรวมเกิดจากราคาหุ้นของมหาเศรษฐีที่มีทั้งเป็นเจ้าของบริษัท หรือถือลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกานั้นตกต่ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ในขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่มหาเศรษฐี 500 ...