นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ แถลงว่า กำรอผลการตรวจเพิ่มเติมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนจากผู้ต้องสงสัยจำนวน 1 รายที่ตรวจพบเชื้อเป็นบวก นอกจากนี้ ยังกล่าวย้ำว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในประเทศเกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะที่เลวร้ายมากกว่าที่ประเมินไว้ โดยเฉพาะพื้นที่ศูนย์กลางการระบาดในกรุงโซลและเมืองรอบๆกรุงโซล กลายเป็นพื้นที่ระบาดอย่างเลวร้ายที่สุดในประเทศ ส่งผลให้อาจต้องพิจารณาใช้มาตรการควบคุมภาวะโรคระบาดโควิด-19 อย่างฉุกเฉินในบริเวณดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ยอมรับว่าสาเหตุการระบาดพุ่งสูงอย่างรุนแรงในขณะนี้มาจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศตามนโยบายที่ต้องการให้ประชาชนรับความเสี่ยงในการอยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 เพื่อหวังให้ระบบเศรษฐกิจเกาหลีใต้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ วันนี้ ...

ความกังวลในสถานการณ์การพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน โดยความเฉพาะความไม่แน่นอนในวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันที่จะมีประสิทธิภาพในการรับมือกับสายพันธุ์ดังกล่าว ส่งผลถึงดัชนีหุ้นล่วงหน้าสำคัญทั้ง 3 แห่งในตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ดำดิ่งอย่างรุนแรงก่อนจะเปิดทำการซื้อขายคืนวันนี้ โดยเมื่อเวลา 13.35 น.(ตามเวลาไทย) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่วงหน้า ทรุดหนักถึง -472 จุด หรือ -1.35% อยู่ที่ระดับ ...

สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ทำให้รัฐบาลเตรียมประกาศใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดดังกล่าว ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมากทั่วประเทศที่ต้องถูกกักพื้นที่ รวมถึงการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรวมตัวกันของประชาชนจำนวนมากเพื่อชุมนุมประท้วงมาตรการต่างๆที่ทำให้เกิดการปิดกั้นเสรีภาพในการใช้ชีวิตและการอยู่ร่วมในสังคม อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะมีการลงมิติในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงสาธารณสุข สวิสเซอร์แลนด์ รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ 24 พฤศจิกายน 2564 ...

บริษัท แอสตร้าเซเนก้า จำกัด ยักษ์เวชภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกในสหราชอาณาจักร แจ้งไปยังกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซีว่า มีความจำเป็นต้องลดจำนวนการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ราว 60% จากเดิมที่ต้องจัดส่ง 80 ล้านโดม เหลือเพียง 31 ล้านโดสภายในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ซึ่งจะเริ่มจัดส่งให้กลุ่มอียูที่มี 27 ประเทศสมาชิกรวมกันตั้งแต่วันที่ ...

องค์การอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีเอ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสาร และรายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ สหรัฐ ร่วมผลิตกับบริษัทไบออนเทค เยอรมนี พบว่า ข้อมูลจากบริษัทดังกล่าวไม่ทำให้ต้องยกประเด็นความปลอดภัยเกี่ยวกับวัคซีนแต่อย่างใด . ข้อมูลที่ยื่นต่อเอฟดีเอมีความเชื่อมโยง และต่อเนื่องกับการยื่นขอใช้วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เพื่อวัตถุประสงค์การใช้ฉุกเฉิน นอกจากนี้ เอฟดีเอยังระบุว่าวัคซีนดังกล่าวของไฟเซอร์มีคุณสมบัติ หรือสรรพคุณในการป้องกันหลังจากได้รับการฉีดเข็มที่ 1 หรือโดสแรก ...