วันที่ 14 กรกฎาคม นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและปลีกไทย เปิดเผยว่ารู้สึกผิดหวัง กับผลโหวตนายกรัฐมนตรีที่ออกมา โดยคุณพิธาจากพรรคก้าวไกล ซึ่งได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งไม่ผ่านการโหวตรอบแรก โดยมองว่าทุกอย่างเป็นการจัดตั้งมากกว่าการเลือกตั้ง เพราะมีการจัดวาง จัดเรียงกันไว้อยู่แล้วในแผน การเลือกตั้งเป็นแค่พิธีการเท่านั้น “การโหวตรอบสองทั้ง 8 พรรค ควรจะผลักดันเสนอชื่อคุณพิธาอีกครั้งให้สุดทางเพื่อให้คลายข้อสงสัยว่าทำไมถึงไปต่อไม่ได้ ถ้ารอบสองนี้คุณพิธาไม่ผ่านโหวต คุณพิธาก็ควรจะถอย ...

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมผ่านมานั้น ยังประเมินได้ยาก เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง ประเมินยากว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลจะจัดตั้งได้เมื่อไร ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายภาครัฐที่งบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้ แต่ในส่วนเบิกจ่ายงบประจำยังมีงบกลางที่ยังใช้ดำเนินการไปได้อยู่ อาจไม่ได้ติดขัดมาก ...

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย หรืออีคอนไทย กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ในมุมของผมคือ ก้าวไกล มองในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเป็นหลัก แต่เพื่อไทย มองในเรื่องของนโยบายทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยค่อนข้างอ่อนแอ หากพรรคการเมืองต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงตามอุดมการณ์ คงไม่ได้ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักระยะ แต่ตอนนี้เรื่องหลักคือ รัฐบาลต้องเข้ามาแก้บาดแผลทางด้านเศรษฐกิจ และภาคการส่องออกที่ติดลบจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ดังนั้น ...

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คะแนนรอบแรกออกมาต่ำไปหน่อย ผมต้องขอปรึกษาผู้บริหารพรรคก่อนว่าคิดอย่างไร ซึ่งวันนี้จะประชุมกัน น่าจะมีความชัดเจนขึ้น ส่วนชื่อนายพิธาจะไปต่อหรือไม่นั้นคงต้องไปคุยกันก่อน แต่ยืนยันว่าเราสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ต้องขอบคุณทั้ง 324 เสียง ส่วนแนวโน้มคุยกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิมเพื่อขอเสียงส.ส.สนับสนุน เรื่องนี้ต้องเป็นยุทธศาสตร์ของ 8 พรรคร่วมที่จะคุยกัน ส่วนผมไม่ได้อยู่ในวงเจรจา นายเศรษฐากล่าวต่อไปว่า ข้อบังคับการประชุมที่ไม่สามารถเสนอญัตติซ้ำได้ ...

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แผนรองรับเรื่องงบประมาณรัฐบาลปี 2567 ล่าช้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปี 2566-2567 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่คาดว่าจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ทันนั้น กระทรวงการคลังเตรียม 3 แผนงานไว้ ดังนี้ 1. กระทรวงการคลังได้หารือกับสำนักงบประมาณ เรื่องแผนการใช้จ่ายงบประมาณของปีงบ 2566 ไปพลางก่อน ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมายที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ...

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เนื่องจากงบประมาณมีผลบังคับใช้ล่าช้า สิ่งที่จะขาดหายไป คือ งบลงทุน ซึ่งมีกรอบวงเงินทั้งหมดในปีงบประมาณ 600,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ส่วนใหญ่วงเงินดังกล่าว จะมีการเบิกจ่ายในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ ดังนั้นจะต้องดูว่าในงบลงทุน 600,000 ล้านบาท จะมีการเบิกจ่ายเท่าใดในช่วงไตรมาส ...