ในที่สุดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่าง ‘โอไมครอน’ ก็เกิดการลุกลามขึ้นแล้วในประเทศไทยจากคลัสเตอร์หลายแห่งในหลายจังหวัด กระทั่งหลังปีใหม่ที่ผ่านไป ยอดผู้ติดเชื้อจากสายพันธุ์กลายพันธุ์นี้ก็พุ่งไม่หยุด ทั้งในกลุ่มประชาชน ไปจนถึงคนดังต่างเริ่มออกมาบอกว่าตนติดเชื้อโควิด-19 เรียกได้ว่าโอไมครอนมากเคาะประตูสวัสดีปีใหม่กันเลยทีเดียว เจอแบบนี้จะยังได้ยินคำว่าโอไมครอนกระจอกอีกหรือไม่ หลังจากผ่านพ้นปีใหม่มาได้เพียง 7 วัน ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศไทยประจำวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ก็พุ่งสูงถึง 7,526 ...

‘คนไทยแปลว่าอิสระ’ เพราะแม้โควิด-19 จะกลับมาระบาดรุนแรงอีกรอบ ไทยก็ไม่หวั่น เพราะศบค. มั่นใจว่าทุกอย่างสามารถควบคุมได้ พร้อมทั้งไฟเขียวให้จัดงานปีใหม่ และอนุญาตให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคืนสิ้นปีได้ไม่เกินตี 1 เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น ขณะที่ทั่วโลกกำลังวิตกกังวลกับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่างโอไมครอนที่ได้มีการระบาดกระจายเป็นวงกว้าง ถึงขนาดที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องออกโรงเตือนว่าอย่าได้ประมาทกับการแพร่ระบาดในครั้งนี้ เพราะการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนยังไม่มีทิศทางที่แน่ชัด และอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ก็เป็นได้ จากที่สร้างความกังวลเพียงเล็กน้อยเนื่องจากพบว่ามีอาการไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่หลังจากที่มีการรายงานข่าวการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ...

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการอนามัยโลก กล่าวว่า โรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบเห็นการระบาดในเชื้อสายพันธ์ุใหม่ทุกสายพันธุ์ที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งแรก จนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา(14 ธันวาคม) เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนแพร่ระบาดไปถึง 77 ประเทศทั่วโลก ในความเป็นจริงแล้ว สายพันธุ์โอไมครอนมีการระบาดในหลายประเทศส่วนใหญ่ถึงแม้ว่าจนถึงขณะนี้แต่ละประเทศอาจจะยังไม่ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์นี้ก็ตาม ผู้อำนวยการอนามัยโลก กล่าวต่อไปว่า ...

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ได้มีการแพร่ระบาดกว่า 60 ประเทศ โดยกำลังสร้างความเสี่ยงระดับโลกในระดับสูงมาก ขณะที่มีหลักฐานว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ ซึ่งความเสี่ยงโดยรวมของโอไมครอนอยู่ในระดับสูงมาก เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับไวรัสดังกล่าว ทั้งการแพร่ระบาดและความรุนแรงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้ที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน อาจจะไม่มีภูมิต้านทานเพียงพอที่จะป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งทำให้อัตราการแพร่ระบาดอยู่ในระดับสูง และทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง

โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบ สร้างความฮือฮา จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต ผู้นำและประชาชนทั่วโลกกลับเข้าสู่สภาวะเฝ้าระวังอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่คนไทยที่เกิดความกังวลใจต่อการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์นี้ เพราะไทยเพิ่งทำการเปิดประเทศไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อีกทั้งในหลายประเทศที่ทำการปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์นี้ ต่างก็ออกมายืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อแล้ว โอไมครอน วายร้ายกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่คืออะไร มีความรุนแรงแค่ไหน เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ทั่วโลกพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ระดับที่น่ากังวล ...

เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เผยว่า ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียแปซิฟิกควรเพิ่มขีดความสามารถด้านการดูแลสุขภาพ และเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อเตรียมรับมือกับการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดจากสายพันธุ์โอไมครอน เนื่องจากในปัจจุบันมีประเทศที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้วอย่างน้อย 24 ประเทศ และเริ่มพบมากขึ้นในทวีปเอเชีย โดยมีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย ส่งผลให้รัฐบาลหลายประเทศออกมาตรการจำกัดการเดินทาง ทางด้านนายทาเคชิ ...

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์น่ากังวลตัวที่ 5 ในปัจจุบันนี้ จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์ใหม่ และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสูงต่อโลก นอกจากนี้ การระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์โอไมครอน อาจจะทำให้เกิดผลกระทบตามมาที่รุนแรงในบางภูมิภาคของโลก องค์การอนามัยโลก เปิดเผยต่อไปว่า เนื่องจากความสามารถในการกลายพันธุ์จำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของภูมิต้นทานลดลง และโอกาสในการแพร่ระบาดที่มีสูง ...

ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสล้วนเข้าใจผิดว่าการฉีดวัคซีนทำให้ใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องระมัดระวังตัว แต่ที่จริงแล้วผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดและแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ยิ่งเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดได้มากขึ้น ก็หมายความว่าวัคซีนโควิดมีประสิทธิภาพป้องกันลดลง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าวัคซีนจะทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง และผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค แม้วัคซีนจะช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ...

วารสารการแพทย์ The Lancet ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยระบุว่า วัคซีนโควาซิน (Covaxin) ซึ่งเป็นวัคซีนพัฒนาโดยสถาบันวิจัยด้านการแพทย์ของรัฐบาลอินเดีย และบริษัทภารัต ไบโอเทค อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตยาสัญชาติอินเดียนั้น ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้ 77.8% โดยวัคซีนโควาซินซึ่งใช้เทคโนโลยีวัคซีนเชื้อตาย (Inactivated-Virus Technology) สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งหลังจากได้รับการฉีดสองโดสแล้วเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ...

คุยกับบัญชา Live: WHO ปักหมุดทวีปยุโรปศูนย์กลางการระบาดโควิด-19 แห่งใหม่ของโลก